FAQ, โรคงูสวัด

งูสวัด คืออะไรและป้องกันได้อย่างไร

%e0%b8%87%e0%b8%b9%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3

คำตอบ : โรคงูสวัด (Herpes Zoster) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า “วาริเซลลา ซอสเตอร์(Varicella Zoster Virus)” ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส

โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายจากการสัมผัสตุ่มน้ำใสของผู้ที่ป่วยหรือจากการหายใจเอาเชื้อเข้าไป และเมื่อเราได้รับเชื้อไวรัสนี้ ครั้งแรกจะทำให้เราเป็นโรคอีสุกอีใส

แต่เมื่อหายแล้ว เชื้อดังกล่าวจะซ่อนตัวอยู่ในปมประสาทของร่างกายรอวันที่ร่างกายอ่อนแอแล้วจึงแสดงอาการที่หนักขึ้นออกมา

ดังนั้นเมื่อใดที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ ไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ก็จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นและกระจายตัวออกมาในปมประสาท ทำให้เกิดอาการปวดตามแนวเส้นประสาทและเป็นตุ่มใสเรียงตัวเป็นแนวยาวตามเส้นประสาท ซึ่งเราเรียกว่า“งูสวัด”

ซึ่งผู้ป่วยที่เป็น งูสวัดจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามผิวหนังเหมือนถูกไฟลวก อาจมีอาการคันร่วมด้วย จากนั้น 2-3 วัน จะเกิดผื่นแดงแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสและขึ้นเรียงกันเป็นกลุ่มหรือแนวยาวตามเส้นประสาท มักเกิดตามขวางลำตัว บริเวณชายโครง ใบหน้า และแขน

ทั้งนี้ผื่นจะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ แต่ยังคงมีอาการแทรกซ้อนที่เรียกว่า“อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเรื้อรัง(PHN)” ซึ่งอาจจะมีอาการปวดเรื้อรังยาวนานเป็นปีเลยทีเดียว

และต้องระวังเป็นพิเศษในกรณีที่เกิด งูสวัด ในบริเวณใบหน้า เพราะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาได้ เช่น ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาจนตาอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่อาจทำให้ถึงชีวิตได้ในกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

โดยผู้สูงอายุที่อายุเกิน 50 ปีหรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ มักมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดได้ง่ายและมีอาการปวดเรื้อรังได้ยาวนานจนเกิดปัญหาในการดำรงชีวิตได้

สำหรับแนวทางในการป้องกันโรคงูสวัดคือ ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยงูสวัด

สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดโรคภัยอันนำมาซึ่งความเจ็บป่วยในอนาคต

สำหรับผู้ที่นิยมรับประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงร่างกาย เราขอแนะนำ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus  ที่มีสารอโลมิซิน ที่ช่วยระงับการขยายตัวของเชื้อไวรัส ,สารโพลีแซคคาไรด์ ที่ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้เซลล์เม็ดเลือดขาวแข็งแรงขึ้นและป้องกันโรคติดเชื้อ ฯลฯ

ดังนั้นน้ำว่านหางจระเข้  S Vera Plus Aloe Vera With Goji Berry Juice จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอและภูมิต้านทานต่ำ

โดยควรทานเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรค’งูสวัด’ได้

น้ำว่านหางจระเข้คุณภาพเยี่ยม เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย

>> รายละเอียดสินค้า : เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ S Vera Plus <<

——————————————————————————————————————————-

สนใจติดต่อ :

 Line ID : s7514

หรือแอดไลน์ที่ : http://line.me/ti/p/~s7514

WeChat ID : Lek-scm

เบอร์โทร: 061-3616739 (ฐิสา) , 081-868 9856 (ศุภโชค)

——————————————————————————————————————————-

error: do not copy content!!