ลดหน้าท้อง ผอมเร็วดั่งใจ
ด้วยสถานเสริมความงาม ดีจริงหรือ?
เชื่อว่าสาวๆแทบทุกคนย่อมอยากมีรูปร่างและสัดส่วนที่สวยงาม แต่การที่จะมีรูปร่างผอมเพรียว สวยกระชับแบบนั้นได้ ก็ต้องแลกมาด้วยการมีวินัยในการใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทานอาหารขยะ ไขมันเยอะ และทานอย่างพอดี ไม่มากเกินไป รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กระชับและคล่องตัวอยู่เสมอ
ดังนั้นการได้มาซึ่งรูปร่างที่สวยงามก็อาจจะดูยากลำบากเกินไปสำหรับใครหลายคน จึงทำให้บางคนที่พอมีฐานะทางการเงินใช้ทางลัดที่จะช่วยทำให้มีรูปร่างผอมเพรียว ลดหน้าท้อง ลดพุงได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยการเลือกใช้บริการคลีนิคเสริมความงาม ที่มีเครื่องมือสำหรับดูดไขมันเพื่อลดความอ้วนตามส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นแขนต้นขา ดูดไขมันสะโพก เป็นต้น
และความยากลำบากในการลดน้ำหนักที่หลายคนต้องพอเจอ โดยบางคนลดน้ำหนักจนหน้าตอบ แต่พุงและไขมันหน้าท้องกลับไม่ยุบลงเลย
ทำให้หลายคนเกิดความท้อใจและเลิกล้มความตั้งใจในการลดน้ำหนักด้วยตัวเอง และสถานเสริมความงามก็มีเครื่องมือที่ช่วยขจัดไขมันอย่างรวดเร็วโดยการดูดไขมันออกมาจากร่างกายโดยตรง
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการ ลดหน้าท้อง ด้วยการดูดไขมันจึงกลายเป็นวิธียอดฮิตสำหรับคนอยากผอมในปัจจุบัน
การดูดไขมันมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นวิธีการกำจัดไขมันเฉพาะที่ของร่างกายซึ่งการดูดไขมันไม่ถือว่าเป็นการลดความอ้วน แต่เป็นวิธีการเพื่อประโยชน์ในด้านความสวยงามมากกว่า
การดูดไขมันที่ทำอย่างถูกต้องตามหลักการแพทย์คือ ต้องมีข้อบ่งชี้ว่าบริเวณนั้นๆมีไขมันเฉพาะที่พอกอยู่มากจริงและสมควรต้องดูดออก มีเครื่องมือดูดไขมันที่ได้มาตรฐาน
ทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ และมีวิธีการวางยาสลบที่ถูกต้อง วิธีนี้ไขมันก็จะถูกกำจัดออกจากร่างกายเราได้เช่นกัน
วิธีการดูดไขมัน
เริ่มต้นโดยการให้คนไข้สลบไปก่อน แล้วแพทย์จะฉีดยาหลายชนิดเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพื่อให้เซลล์ไขมันแตกตัวจะได้ทำการดูดไขมันออกได้ง่ายขึ้น
โดยเปิดแผลเล็กๆยาว 1 เซนติเมตรในตำแหน่งที่จะดูดไขมันแล้วสอดท่อดูดไขมันขนาดเล็กยาว ซึ่งมีหลายขนาดและหลายรูปร่าง ผ่านรูช่องที่เปิดไว้แล้วต่อกับเครื่องดูดหรือไซริ้งพิเศษสำหรับดูดไขมันโดยเฉพาะ
ทำการดูดไขมันในชั้นลึกก่อนแล้วจึงค่อยๆดูดเพิ่มในชั้นตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ
คนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย.. แต่จะมีอาการเจ็บและช้ำเขียวใต้ผิวหนัง ถ้าสบายๆก็นอนโรงพยาบาลซักคืนนึง หลังดูดไขมันต้องพันรัดบริเวณที่ดูดไขมันให้แน่นประมาณ 5-7 วัน
ขอย้ำว่า “การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดความอ้วน” และไม่ควรดูดไขมันทั้งตัวเด็ดขาด แม้จะมีข้อดีแต่การดูดไขมันก็เกิดผลเสียได้เช่นเดียวกับการศัลยกรรมทุกอย่าง
เช่น การดูดไขมันหลายๆแห่งหรือดูดไขมันทั้งตัว(ซึ่งไม่แนะนำเลย) จะทำให้เกิดภาวะเสียเลือดหรือไขมันอุดตันในเส้นเลือดจนช็อกได้ ทำให้ผิวหนังไม่เรียบเป็นคลื่นเป็นหลุมหลังการดูดไขมันหรือที่เรียกว่า skin irregularity
รู้ทันคลีนิคเสริมความงามและเครื่องมือลดน้ำหนัก
คลีนิคเสริมความงามที่ช่วยในการลดน้ำหนักหลายแห่งที่เราคุ้นหู โดยจะเป็นศูนย์ที่ให้เราเข้าไปรับการดูแลโดยมีเครื่องมือต่างๆช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีทเม้นท์ เช่น เครื่องกระชับสัดส่วน เครื่องสลายไขมันลดหน้าท้องและรวมถึงมีการพันตัว ทั้งร้อนและเย็น ทั้งแห้งและเปียก เป็นต้น
เนื่องจากเป็นวิธีการที่ต้องใช้เครื่องมือและคนค่อนข้างมากจึงทำให้วิธีการนี้เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่แพงที่สุดเท่าที่คนทั่วไปจะสามารถหาได้ตามท้องตลาด
ถ้าใครสนใจวิธีนี้ก็ต้องเตรียมเงินสัก 3-4 หมื่นบาทสำหรับศูนย์ที่ชื่อเสียงไม่ค่อยดัง ส่วนศูนย์ที่ดังๆล่ะก็เตรียมเงินอย่างน้อย 1-3 แสนบาทไว้ได้เลย (ส่วนราคาที่เห็นติดตามหน้าร้านเป็นเพียงเหยื่อล่อให้เราเข้าไปเท่านั้น..)
และยังเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลามากพอสมควรเพราะว่าเราจะต้องเดินทางไปที่ศูนย์อย่างสม่ำเสมอ และแต่ละครั้งที่ไป ก็จะต้องใช้เวลาในการทำทรีทเม้นต์นานพอสมควรเลยทีเดียว
แต่ประเด็นสำคัญคงอยู่ตรงที่ว่าจะลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่าเพราะถ้าลดได้จริงๆ ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่มีเงิน กระเป๋าหนาพอสมควร
ความจริงที่ต้องรู้ก็คือ สถาบันเหล่านี้จะไม่รับรองผลและไม่คืนเงินหากไม่ได้ผล และที่สำคัญก็คือสถาบันเหล่านี้จะบอกว่า “หากไม่ควบคุมอาหารด้วย จะไม่ได้ผล”… โปรดฟังอีกครั้ง “หากไม่ควบคุมอาหารด้วย จะไม่ได้ผล!!”
ประโยคนี้แปลง่ายๆว่า แม้ว่าเราจะจ่ายเงินให้เขากี่หมื่นกี่แสนก็ตาม ถ้าหากเราไม่ควบคุมอาหารก็จะไม่ได้ผล และแม้เราจะควบคุมอาหารแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลด เขาก็ไม่ได้คืนเงินให้…
ด้วยกฎเกณฑ์ที่ผู้เข้ารับบริการต้องควบคุมอาหารด้วย จึงทำให้คนที่สามารถลดน้ำหนักลงได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการควบคุมอาหารตามที่ได้รับคำแนะนำเท่านั้น
โดยคำแนะนำส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างจากข้อมูลที่เราก็รู้หรือหาได้ทางอินเตอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ เช่น ลดอาหารจำพวกแป้งและไขมัน ออกกำลังกาย (แต่ถ้าผู้ให้คำปรึกษาไม่รู้จริง ก็มีโอกาสมากที่จะเป็นวิธีรลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้องได้)
สรุปว่า ถึงเราจะเสียเงินไปมากมายแค่ไหนก็ตาม หากเราต้องการให้น้ำหนักลด เราก็ต้องควบคุมอาหารเองอยู่ดี (ถ้าอย่างนั้นจะเสียเงินหลายหมื่นหลายแสนเพื่อ..? )
สิ่งที่เราพอจะคาดหวังได้ก็คือ การทำทรีทเม้นต์อาจทำให้สัดส่วนของเราลดลงได้บ้าง แต่ทางการแพทย์บอกว่า สัดส่วนที่ลดลงได้ส่วนหนึ่งเป็นเพียงการขับน้ำออกจากร่างกายเท่านั้น เมื่อดื่มน้ำเข้าไปน้ำหนักก็จะค่อยๆ กลับมาเหมือนเดิม
อีกส่วนหนึ่งที่เกิดจากการนวดหรือการกระตุ้นจากเครื่องมือต่างๆ ที่ทำให้มีการจัดเรียงตัวใหม่ของไขมันเท่านั้น(ไขมันไม่ได้หายไป) คล้ายๆ กับการที่เอาเชือกไปมัดข้าวต้มมัด (หรือเอามือไปกด)
ถึงแม้จะเกิดรอยบุ๋มขึ้น แต่จำนวนข้าวในข้าวต้มมัดไม่ได้ลดลง เพียงแค่จัดเรียงตัวใหม่เท่านั้น
และเมื่อเราเลิกเข้าศูนย์ น้ำที่เคยถูกขับออกไปในตอนทำทรีทเม้นต์ก็จะค่อยๆกลับมา น้ำหนักก็จะค่อยๆเพิ่ม และหากที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการควบคุมอาหารที่ผิด ก็อาจทำให้โยโย่ได้เช่นกัน
สิ่งดีๆที่พอจะได้จากสถาบันหรือคลีนิคลดน้ำหนักเหล่านี้ก็คือ ความสวยงามของผิวพรรณ และความกระชับ เพราะเครื่องมือและครีมเหล่านั้นช่วยได้เลย
แต่ถ้าโชคร้ายเราเข้าศูนย์ที่บริการไม่ดีพอ หรือเราแพ้อุปกรณ์หรือครีมที่สถาบันใช้ เราอาจได้รอยแผลเป็นกลับมาด้วย
คนส่วนใหญ่จะเชื่อสถาบันเหล่านี้เพราะเห็นพรีเซนเตอร์ ที่สามารถลดน้ำหนักและสัดส่วนลงได้ (โดยเฉพาะดารา) ซึ่งพรีเซ็นเตอร์ เหล่านั้นอาจจะลดลงได้จริง
แต่อาจเพราะสัญญาที่ทำกับสถาบันนั้น ทำให้เขาต้องควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดจึงลดน้ำหนักได้จริงๆ แต่ลองดูดาราที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์สิว่าวันนี้หลังจากไม่เป็นพรีเซ็นเตอร์แล้ว
เขาเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องชื่อดัง ดาราคนดัง อาจารย์ชื่อดัง ไฮโซคนดัง ตอนนี้ผอมเหมือนเดิมหรือเปล่า..?
ถ้าการไปนอนเฉยๆ ช่วยให้ผอมได้ เราก็คงจะไม่เห็นคนไฮโซที่รักสวยรักงาม มีน้ำหนักตัวเกิน (ต้องไม่ค่อยเหลือคนรวยที่อ้วน) แต่ถ้าใครเหลือเงินมากจนไม่รู้จะทำอะไร ก็อาจลองดูได้…
- ครีมกระชับสัดส่วน
โดยทั่วไปแล้วจะเป็นครีมที่เอาไว้ทาเฉพาะส่วน ซึ่งมักจะต้องมีการนวดเพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ครีมเหล่านี้จะอ้างสรรพคุณว่าช่วยให้การเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น
ช่วยกระชับผิวลดสัดส่วนเฉพาะส่วน ช่วยขับไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยสลายไขมัน ช่วยละลายไขมันเป็นต้น (ราวกับครีมวิเศษ)
ผู้ผลิตครีมกระชับสัดส่วนมักจะอธิบายว่า ครีมเหล่านี้จะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ทำให้ต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก และหน้าท้อง ลดลงได้
บางยี่ห้อก็มีการนวดต่อหน้าสาธารณชน เพื่อพิสูจน์ว่าได้ผลแค่ไหน ซึ่งก็เห็นผลชัดเจนว่าสามารถลดได้หลายนิ้ว และบางยี่ห้อได้อ้างถึงสรรพคุณว่าช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันใหม่ และช่วยให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นด้วย
เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า การนวดโชว์เป็นการนวดโดยมืออาชีพซึ่งเราไม่สามารถนวดแบบนั้นได้ และการนวดโชว์ใช้เวลาในการนวดนานกว่าปกติ (เวลาใช้เองจริง เรามักจะนวดแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น)
ผลที่ได้จากการนวดนานและมากขนาดนั้น ก็จะทำให้สัดส่วนเราสามารถลดลงได้จริงๆ ตามที่โฆษณาและนวดโชว์ เพียงมีคำถามที่สำคัญกว่านั้นว่า “แล้วไขมันหายไปหรือเปล่า? ..”
ในการนวดโชว์นั้น สัดส่วนที่ลดลงมักจะเกิดจากการนวดที่แรงและนาน จะดันไขมันให้เข้าไปข้างในมากขึ้น สัดส่วนเลยเล็กลง แต่ไขมันไม่ได้หายไปไหน
และความร้อนที่เกิดขึ้นก็จะทำให้น้ำออกจากเซลล์บริเวณที่เรานวด ซึ่งพอเราดื่มน้ำ ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม…
การที่ผู้ผลิตอ้างสรรพคุณว่า ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยอ้างความร้อนที่เกิดขึ้น จะช่วยให้ไขมันแตกตัวง่ายขึ้นบ้าง ช่วยสลายไขมันบ้างนั้น
หลักการเหล่านี้ทางการแพทย์บอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ครีมที่ทาจากภายนอกจะทำให้ไขมันในร่างกายเราลดลงได้ แม้ว่าครีมเหล่านี้อาจจะทำให้ไขมันแตกตัว(แยกตัว)
หรือทำให้ไขมันแตกตัวง่ายขึ้น แต่ไขมันก็ยังคงมีปริมาณและขนาดเท่าเดิม เมื่อไขมันไม่ได้ลดลง ครีมเหล่านี้จึงไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก (ลดไขมัน) เลยแม้แต่น้อย..
ส่วนบางยี่ห้อที่บอกว่า เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน หรือทำให้มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะร่างกายเราจะเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นจากการกระตุ้นจากภายในและการเคลื่อนไหวของร่างกายเท่านั้น
และการทาครีมไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อเราเพิ่มขึ้นได้เลย (นอกจากกล้ามแขนที่เกิดขึ้นเพราะใช้แรงในการทาครีม)
หากคาดหวังที่จะทำให้ลดน้ำหนักจากการทาครีม การแพทย์นั้นบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ แต่หากคาดหวังว่าจะลดสัดส่วนได้ชั่วคราว ก็พอจะคาดหวังได้บ้าง
แต่หากคาดหวังจะให้ลดน้ำหนักและลดสัดส่วนถาวร เราคงไม่สามารถหาได้จากวิธีการนี้
- เสื้อกระชับสัดส่วน
วิธีการนี้มักจะมาในรูปแบบของชุดชั้นใน หรือชุดอะไรก็ตามที่ใส่แล้วจะรัดรูปมากๆ แล้วอ้างสรรพคุณต่างๆ ที่ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ เช่น มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
มีนาโนเทคโนโลยี ที่ช่วยกระตุ้นให้ไขมันแตกตัว ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น เป็นต้น
วิธีการนี้จะต้องใส่ชุดที่รัดมากๆ คนที่จะใส่ได้ต้องอดทนมากๆ เพราะจะอึดอัดมาก และบางยี่ห้อก็ใส่แล้วคันมากร้อนมาก
ไม่ว่าแต่ละยี่ห้อจะเอาเทคโนโลยีอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายแล้ว ชุดเหล่านี้จะช่วยกระชับสัดส่วนได้เท่านั้น ไม่ได้ช่วยลดไขมันได้เลย (ถ้ามีชุดแบบนี้จริงนักมวยคงซื้อมาใส่ตอนลดน้ำหนักกันหมดแล้ว)
วิธีนี้จึงเหมาะกับคนที่มีสัดส่วนค่อนข้างจะหย่อนคล้อยมากกว่า โดยสัดส่วนที่ลดลงก็เกิดจากแรงบีบรัดจากชุดนั่นเอง (แต่ไขมันที่ถูกบีบรัดอาจสร้างอันตรายให้กับอวัยวะภายในได้)
หากเราจะให้น้ำหนักลดลงได้ด้วยวิธีการนี้ ก็จะเกิดจากการที่เราถูกรัดแน่นเกินไป จนทานข้าวไม่ค่อยได้ น้ำหนักก็เลยลดลง
หากใครยังคลางแคลงใจว่าน่าจะลดได้ ให้ลองนึกถึงชั้นในกระชับสัดส่วนยี่ห้อหนึ่ง ที่มีโฆษณาทางทีวีบ่อยๆ ที่ตอนแรกมีอดีตดาราคนหนึ่งเป็นพรีเซนเตอร์
และเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่นานมาก แต่รูปร่างไม่ได้เล็กลงเลยมีแต่ใหญ่ขึ้น จนตอนหลังก็เลยต้องเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ใหม่
ชุดเหล่านี้ช่วยให้สรีระดีขึ้น กระชับสัดส่วนได้บ้างสำหรับบางคน แต่ไม่ได้ช่วยลดไขมันและไม่ช่วยลดน้ำหนักเลย ถ้าอยากรู้ว่าข้าวต้มมัดรู้สึกยังไงก็ลองดูได้
ท้ายที่สุดเมื่อลดความอ้วนได้จนสำเร็จไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม จนได้ความสวยสมส่วนถูกใจแล้ว อย่าลืมสิ่งสำคัญ(ยากยิ่งกว่า) คือ
“การควบคุมไม่ให้กลับมาอ้วนใหม่อีก” ด้วยการควบคุมอาหาร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องต่อไป
บทความที่น่าสนใจ