ไม่อยาก ท้องร่วง ควรล้างผักสลัดก่อนทานดีไหม?
ตอนที่หมอเบชเซอร์ทำงานที่ศูนย์ควบคุมป้องกันโรค( CDC) ได้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ฝึกปฏิบัติงานสืบสวนโรค สอบสวนการระบาดท้องร่วง ซึ่งจะต้องเล่นกับอึไม่เว้นเลยสักวัน
ทำงานกันโดยมีรายการชื่ออาหารที่เสี่ยงต่อท้องร่วงขึ้นกระดานไว้ ทุกครั้งที่เกิดอุบัติการณ์ขึ้นมันก็จะถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในรายการอีก ตอนที่นั่งมองดูผู้คน เพื่อนร่วมงานกินมื้อกลางวันกันก็มีคำถามว่า
“เมื่อพวกเราใช้เวลาเป็นปีวิเคราะห์เจาะลึกศึกษาอาหารสารพัดอย่างแล้วเราจะเลือกกินอะไรกัน ใช่อาหารที่ปลอดภัยสุดๆไหม?”
แล้วตัวเราเองล่ะ เปลี่ยนนิสัยการกินไปบ้างหรือเปล่า? ผมยังชอบกินซูชิ หอยนางรมสด แฮมเบอร์เกอร์ดิบ และไข่ลวกที่ไข่แดงยังเหลว ซึ่งเป็นอาหารที่ล้วนแต่ไม่เข้าเกณฑ์อาหารปลอดภัยเลยสักอย่าง
ถึงกระนั้นก็มีหัวหน้าคนหนึ่งของเราที่เลือกอาหารปลอดภัยเต็มร้อยครับ อาหารของเขามีแต่ของต้ม ไก่ต้ม ผักต้ม ต้มทุกอย่าง อันนี้ปลอดภัยแน่นอน.. แต่ช่างไม่น่ากินเอาเสียเลย ผมเองไม่เลือกทำอะไรสุดขั้วขนาดนั้นแน่ และคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบนั้นเช่นกัน
ทุกอย่างที่เรากินมีความเสี่ยงทั้งนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเองที่ต้องรู้จักอันตรายให้มากเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้ตัดสินใจเลือกได้ถูกต้อง ตลอดจนสามารถให้คำแนะนำแก่คนอื่นๆด้วย
ผมไม่ได้ยกเลิกของชอบ ตัดของโปรดออกจากเมนูอาหาร แต่ผมตั้งใจเรียนรู้ที่จะเพิ่มความสุขุมเมื่อถึงคราวจะเลือกเมนูอาหาร ใส่ใจเพิ่มขึ้นว่าอาหารนั้นผลิตมาจากแหล่งไหน ผ่านขั้นตอนกรรมวิธีอย่างไรและรู้จักตัดสินใจว่า เมื่อใดจะเลือกปลอดภัยไว้ก่อน และเมื่อใดจะรับความเสี่ยงดูบ้าง
มีคำถามที่ถูกถามอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับอาหารที่ผ่านการล้างเรียบร้อย บรรจุแบบพร้อมรับประทาน เราล้วนถูกสอนให้ล้างผักผลไม้ที่ซื้อมาก่อนที่จะกินมานานแล้ว แต่ตอนนี้เรากลับถูกบอกว่าไม่ต้องล้าง ก็งงสิครับ..
ผมเองก็กังวลเหมือนกับพวกคนเหล่านั้นแหล่ะว่า ผักสลัดรวมที่ล้างมาเสร็จสรรพพวกนี้ปลอดภัยดีแล้วหรือควรจะล้างอีกสักรอบดี?
ต้องยอมรับว่า..ใครจะไม่ชอบความสะดวกสบายของผักสลัดรวมที่เปิดถุงมาก็กินได้เลย ช่างเป็นการเตรียมอาหารที่ง่ายดาย และดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก ในแต่ละปียอดขายผักสลัดรวมมีมูลค่ากว่า 3 ล้านเหรียญ และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี
แต่ขั้นตอนการผลิตก็มีความเสี่ยงอยู่โดยธรรมชาติ ตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การตัดแต่ง รอยตัดที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน เมื่อผักนับพันต้นถูกล้างแล้วนำมาบรรจุ มีโอกาสเสมอที่แบคทีเรียเล็กน้อยจะปนเปื้อนมากับผัก
ทุก 1 ใน 3 ของโรคระบาดที่เกี่ยวกับอาหาร เกิดจากอาหารสด แม้ว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาจะดูแลอาหาร 80% ของอาหารในประเทศ และทำการตรวจถึงปีละ 7,000 ครั้งแต่กลับมีการตรวจขั้นตอนการผลิตอาหารน้อยมาก แบบ 10 ปีมีหนนึง ฟังดูแล้วไม่สร้างความมั่นใจให้เลย
ผมเดินทางไป Salinas Valley ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิต 85% ของผักกินใบทั่วประเทศ เพื่อค้นหาว่าเมื่อ 3 ปีก่อนหน้านั้น เกิดการปนเปื้อนของเชื้อ E. coli สายพันธุ์ O157: H7 ในปวยแล้ง จนกลายเป็นการแพร่ระบาดขึ้นได้อย่างไร
แบคทีเรียชนิดนี้เป็นตัวการก่อโรคติดเชื้อทางเดินอาหารที่รุนแรงที่สุด เพราะเชื้อแค่ไม่กี่ตัวก็อาจทำให้คุณล้มป่วยได้แล้ว จุดที่สงสัยคือน้ำใต้ดินซึ่งเป็นน้ำที่ใช้ในการล้างผัก อาจปนเปื้อนกับน้ำทิ้งจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งอยู่ไม่ไกล
กรณีนี้ได้มีการส่งตรวจผักสลัดรวม 208 ตัวอย่าง(ทั้งแบบบรรจุถุงและกล่องใส) ไม่พบแบคทีเรียชนิดก่อโรคอาหารเป็นพิษ(ได้แก่ E.coli O157:H7,Listeria,Salmonella)
เชื้อที่ตรวจพบคือ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม ซึ่งปกติอยู่ในลำไส้ของคน นั่นหมายความว่าต้องมีการปนเปื้อนจากอุจจาระคน ข้อสันนิษฐานคือมีการปนเปื้อนมากับน้ำในระบบท่อระบายน้ำ
น้ำชะล้างฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เครื่องมือในการผลิตไม่ปลอดเชื้อ หรืออาจมาจากคนงานที่ป่วย แต่ข้อมูลนี้บอกว่า การตรวจพบเชื้อก็เป็นเกณฑ์คร่าวๆ ที่บอกเราได้ว่ามีความไม่ปลอดภัยอยู่
ฟังดูก็น่าตกใจ แต่ในความจริงต่อให้เอาผักมาล้างเองอีกรอบ ก็ไม่สามารถขจัดแบคทีเรียให้หมดสิ้นไปได้ ที่หนักกว่านั้นก็คือ มีความเป็นไปได้ว่าครัวของคุณหรือแม้แต่มือของคุณ อาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียเสียเอง
ยิ่งล้างซ้ำกลับยิ่งเพิ่มโอกาสปนเปื้อนเชื้อเข้าไปใหญ่ ลองคิดดู..อ่างล้างในครัวของคุณสะอาดแค่ไหน
เราควรประเมินว่าตัวเองยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน เปอร์เซ็นต์ที่จะท้องร่วงจากการกินสลัดผักรวมนั้นน้อยก็จริง แต่บางคนอาจจะรู้สึกดีกว่า ถ้าได้ซื้อผักสลัดเป็นหัวมาล้างและเตรียมเอง ถึงจะยังคงเหลือความเสี่ยงอยู่บ้างก็ตาม
เรายังทำอะไรๆให้ปลอดภัยมากขึ้นได้อีก เชื้อแบคทีเรียต้องการเวลาในการเจริญเติบโต เพิ่มจำนวนและจะโตได้เร็วที่อุณหภูมิห้อง ดังนั้นจงเลือกซื้อพืชผักที่สดใหม่และเย็นที่สุดเท่าที่จะหาได้
มีรายงานว่าปริมาณแบคทีเรียในผักที่บรรจุมาแล้ว มีน้อยที่สุดก่อนจะถึงวันหมดอายุ 5 วัน ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบวันที่ระบุ และควรจะกินในวันที่ซื้อหรือวันรุ่งขึ้น
ก่อนซื้อหรือก่อนเลือกผักสลัดรวมสำเร็จ ดูว่าไม่มีผักที่มีเมือกลื่น ช้ำ หรือเสีย เพราะนั่นคือลักษณะที่บ่งบอกว่าน่าจะปนเปื้อนแบคทีเรีย
การเก็บรักษาอย่างเหมาะสมก็สำคัญมาก ต้องดูให้แน่ใจว่า บรรจุภัณฑ์แช่อย่างถูกวิธีในตู้เย็นที่ร้านค้า และรีบเอาเข้าตู้เย็นทันทีที่ถึงบ้าน หยิบแพ้คที่อยู่ลึกที่สุดของตู้แช่ที่ร้านเพื่อให้แน่ใจว่า ผักอยู่ที่อุณหภูมิเย็นสุดโดยตลอด
ปิดปากถุงสนิท ไม่ใส่รวมกับเนื้อสัตว์ดิบ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนติดเชื้อ โปรดระวังตู้เย็นที่บ้านคุณเอง เห็นบ่อยจริงๆ ที่วางถาดบรรจุเนื้อไก่เอาไว้ที่ชั้นบนแล้วเก็บผักไว้ชั้นถัดลงมา การทำแบบนี้ไม่ปลอดภัยเลยนะ
การระบาดอย่างรุนแรงของที่เกี่ยวพันกับผักผลไม้สดนั้น ทำให้คนไม่น้อยวิตกกังวล และไม่แน่ใจในผักผลไม้ที่บรรจุถุงและกล่อง ความจริงก็คือ ถ้าบรรจุโดยบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐาน
การจัดส่งและวางขายเป็นไปอย่างถูกต้องทุกประการแล้ว กลับกลายเป็นว่าการที่คุณนำผักผลไม้มาล้างซ้ำเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้อาหารเสียอีก
บทความที่น่าสนใจ
- อากาศร้อน…ระวัง “ท้องเสีย”
- น้ำยาล้างจาน Neatly Home สะอาด ไร้สารตกค้าง
- 4 พฤติกรรมควรทำเพื่อให้ ‘สุขภาพดี’