ปวดท้องประจำเดือน…ปวดบ่อยๆ
มันแย่ต่อร่างกายรู้ไหม?!
เชื่อว่าสาวๆหลายคนจะต้องเคยประสบปัญหา ‘ปวดท้องประจำเดือน’ โดยบางคนอาจจะมีอาการปวดท้องทุกครั้งที่ีมีประจำเดือน ปวดมากจนแทบลุกไม่ขึ้น ทำงานหรือไปเรียนไม่ไหวกันเลยทีเดียว
สำหรับรายที่ไม่ปวดเลยหรือปวดท้องบ้างเล็กน้อย ก็ถือว่าโชคดี เพราะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี ทำให้เวลามีประจำเดือนก็จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก
แต่สำหรับรายที่มีปัญหานั้น แรกๆก็ยังพอทนไหวกับอาการปวดบีบภายในท้องน้อย แต่นานๆไป อาการปวดท้องน้อยก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในแต่ละครั้งที่มีประจำเดือน
แบบนี้หากปล่อยทิ้งไว้จะไม่เกิดผลดีต่อร่างกายแน่ๆ ดังนั้นเรามาดูกันว่า อาการปวดท้องประจำเดือนนั้นมาจากสาเหตุใดและมีวิธีรักษาและดูแลตัวเองอย่างไร
การปวดท้องประจำเดือน หรือ ปวดท้องเมนส์ นั้นจะแบ่งตามช่วงอายุของผู้หญิง โดยในช่วงอายุน้อยๆ ไม่เกิน 30 ปี อาการปวดประจำเดือนมักเกิดจากความผิดปกติของอุ้งเชิงกราน
ซึ่งอาการปวดก็จะไม่มากนักและรักษาด้วยการทานยาแก้ปวด แต่ในรายที่อายุมาก ตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ถือว่าควรให้ความสำคัญต่ออาการปวดท้องเมนส์
เพราะอาการปวดดังกล่าวจะเกี่ยวพันกับโรคร้ายแรงที่เรียกว่า โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญอยู่นอกโพรงมดลูก ซึ่งเยื่อบุโพรงมดลูกมีหน้าที่หลักคือ การสร้างประจำเดือน
ดังนั้นหากเยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ ก็จะทำให้มีการสร้างเลือดสีแดงคล้ำคล้ายช็อกโกแลต (ที่เรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์) ขังอยู่ตามอวัยวะดังกล่าว
โดยจะมีลักษณะเป็นเลือดเก่าอยู่ในรังไข่ ส่งผลให้เกิดเนื้องอกที่รังไข่นั่นเอง ซึ่งอาการดังกล่าวจะนำไปสู่ภาวะการมีลูกยากได้ เนื่องจากเกิดผังพืดในอัุ้งเชิงกราน
และสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ การไหลย้อนทางของประจำเดือน โดยสิ่งที่ควรรู้คือ ผู้หญิงไม่ได้เป็นภาวะนี้กันทุกคน
นั่นคือ หากผู้หญิงคนนั้นมีระบบภูมิคุ้นกันร่างกายดี ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะสามารถกำจัดเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้ได้ ดังนั้นในผู้หญิงที่มีระบบภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ได้
จะมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดท้องเมนส์มาก โดยจะมีอาการปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติและมีความรุนแรงของการปวดเพิ่มมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
- เจ็บในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง
- อาจมีเลือดกะปริบกะปรอยระหว่างมีเมนส์
วิธีการรักษาจะแบ่งเป็น การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการปวด และ การผ่าตัดเพื่อนำก้อนซีสต์ออก สำหรับรายที่ไม่มีอาการปวดท้องเมนส์มากนัก ก็จะใช้ยาพ่นจมูก ยาทานหรือยาฉีดเพื่อบรรเทาอาการปวด
แต่หากมีการตรวจพบว่ามีซีสต์ที่รังไข่โตเกิน 6 ซม. แพทย์ก็จะทำการผ่าตัดเอาก้อนซีสต์ออก
1) ยาแก้ปวด
ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนและปวดท้องน้อย
2) ยาฮอร์โมน
ซึ่งจะแบ่งเป็น ยาทาน หรือ ยาฉีด ที่่ต่างออกฤทธิ์กดการทำงานของรังไข่ ทำให้ซีสต์ในรังไข่ฝ่อ ช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์และท้องน้อย
รวมท้้งป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่ข้อเสียของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ผู้ป่วยจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ขณะที่ใช้ยา
3) การผ่าตัด
ถือเป็นวิธีการรักษาสุดท้าย เมื่อแพทย์พบว่ามีก้อนซีสต์ในรังไข่ ก็จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อนำก้อนซีสต์ออก โดยมีลักษณะการผ่าตัด 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้
3.1) การผ่าตัดผ่านทางหน้าท้องโดยใช้กล้อง
การผ่าตัดแบบนี้ จะใช้ในกรณีที่ไม่รุนแรง และแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยจะฟื้นตัวได้เร็วและมีโอกาสมีบุตรได้ในอนาคต
3.2) ผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
จะเป็นการผ่าตัดสำหรับรายที่เป็นรุนแรงและต้องทำใจเลยว่าจะไม่สามารถมีบุตรได้อีก เพราะจะเป็นการผ่าตัดเอาทั้งมดลูกและรังไข่ออกทั้งหมด
ซึ่งจะทำให้หายขาดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้ แต่จะทำให้เข้าสู่วัยทองก่อนเวลาอันควร
เราจะเห็นได้ว่า แค่อาการปวดท้องเมนส์ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุดท้ายอาจแฝงด้วยโรคร้ายในอนาคตได้ ดังนั้นการดูแลตัวเองให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ต้องหมั่นสังเกตตัวเองว่าประจำเดือนมาปกติ สม่ำเสมอหรือไม่ มีอาการปวดท้องประจำเดือนมากขึ้นเรื่อยๆหรือไม่ หากผิดปกติก็ควรรีบปรึกษาแพทย์
บางคนคิดว่าแค่ทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล 2 เม็ดก็หายแล้ว ซึ่งแรกๆก็อาจทุเลาลง แต่จากนั้นก็จะต้องทานยาแก้ปวดมากขึ้น จนสุดท้ายการทานยาแก้ปวดก็ไม่สามารถบรรเทาอาการได้
โดยมีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเวลาผ่านไปได้มีการตรวจพบว่าเป็นเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่และมีก้อนซีสต์ในรังไข่ สุดท้ายก็ต้องผ่าตัด
และนำไปสู่ภาวะการมีลูกยาก เรียกว่าได้ว่ากว่าจะรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังนั้นอย่าปล่อยปละละเลยกับอาการปวดท้องเมนส์ และต้องใส่ใจดูแลสุขภาพของเราให้ดีอยู่เสมอ
และสำหรับคนที่มองหาอาหารเสริมเพื่อบำรุงภายในสำหรับผู้หญิง ที่ได้คุณภาพและปลอดภัย เราขอแนะนำอาหารเสริม Click Plus ที่เป็นสมุนไพรจีนสำหรับบำรุงสตรี
โดยเฉพาะสาวๆที่ีมีปัญหาเรื่องประจำเดือนไม่ปกติ มาน้อย มาไม่ตรง และปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำ โดยอาหารเสริม Click Plus จะช่วยควบคุมรอบเดือนให้เป็นปกติ
แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมาช้า ด้วยสารสกัดจากตังกุย ที่มีคุณสมบัติในการลดอาการปวดประจำเดือน ซึ่งเกิดจากการหดตัวของมดลูก
ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ รักษาภาวะเลือดคั่ง (ประจำเดือนเป็นลิ่มเลือด หรือที่เรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์) และยังรักษาอาการช่องคลอดแห้ง
ช่วยขับน้ำคาวปลา และช่วยให้มดลูกเข้าอู่หลังคลอดเร็วขึ้น พร้อมบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
————-
รายละเอียดสินค้า
————-
วิธีทาน : ทานวันละ 1 แคปซูลก่อนนอน
ราคา : 1,200 บาท/กล่อง
ปริมาณ : 30 แคปซูล
เลข อย. : 11-1-03654-1-0489
ส่ินค้าผ่านการับรองความปลอดภัยจาก อย. และผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตตาม GMP และมีตราฮาลาล
การสั่งซื้อ : แจ้งโอนเงิน 2-3 วันสินค้าถึงมือ ติดต่อสั่งซื้อสินค้ากับฐิสา แอดไลน์ Line ID : s7514 หรือกดปุ่มแอดไลน์อัตโนมัติข้างล่างนี้
————-
รีีวิวจากผู้ใช้จริง
————-
เคส 1 : อาทิตยา เชื้อแก้ว อายุ 40 ปี (จ.ชลบุรี)
ปัญหาก่อนใช้
มีปัญหาเกี่ยวกับภายใน มีตกขาว ประจำเดือนมาไม่ปกติ มากระปิดกระปอย ปวดท้องน้อยประจำเวลามีรอบเดือน มีสิวอักเสบ อุดตัน ฝ้าฝังลึก มีกระ รูขุมขนกว้าง ใบหน้าหมองคล้ำ และจุดด่างดำ
ผลลัพธ์หลังใช้
❝คลิ๊กพลัส 1 กล่อง ในเวลา 1 เดือน ปัญหาเกี่ยวกับภายในดีขึ้นมาก ประจำเดือนมาเป็นปกติ ตกขาวน้อยลง ฝ้ากระ เริ่มจางลงอย่างเห็นได้ชัดและมีผิวพรรณสดใสขึ้น
เปล่งปลั่งและเต้านมกระชับขึ้น พอใจและมีความสุขมากค่ะ❞
เคส 2 : บุญฑริกา เกตุเกล้า อายุ 43 ปี (กทมฯ)
ปัญหาก่อนใช้
เคยตกเลือดเกิดจากอาการท้องนอกมดลูก มีประจำเดือนเยอะมากและเป็นไข้ทับระดูบ่อยๆ
ผลลัพธ์หลังใช้
❝Click Plus 6 เม็ดแรก ทำให้ลดอาการปวดประจำเดือนได้ ทานต่อเนื่องมา 9 เดือน ผลที่ได้คือทำให้ไม่ทรมานในทุกๆเดือนอีกต่อไป มีความประทับใจมากและมีความสุขจริงๆค่ะ❞
เคส 3 : เยือนประชา แก้วกลม อายุ 45 ปี (จ.เชียงใหม่)
ปัญหาก่อนใช้
มดลูกต่ำ ปวดท้องประจำเดือน อ้วน หน้าเป็นฝ้ากระ จุดด่างดำ ซีสต์ในมดลูก
ผลลัพธ์หลังใช้
❝หลังจากทานสินค้าภายใน 6 เดือน หน้าใสขึ้น หุ่นเล็กลง ผิวใสหน้าเด็กลง ขอบคุณสินค้า ชอบมากๆๆค่ะ ที่ทำให้สวยสาวขาวอึ๋มขึ้นค่ะ❞
บทความทีี่น่าสนใจ