2 สุดยอด “พืชสมุนไพร” เพื่อผิวสวย
สาเหตุที่ทำให้ระดับฮอร์โมนของผู้หญิงเปลี่ยนแปลงนั้นมีมากมายหลายสาเหตุ เช่น ช่วงมีประจำเดือน คลอดบุตร ภาวะวัยทอง
ทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกาย จิตใจ ผิวพรรณ รวมทั้งอารมณ์ที่แปรเปลี่ยน การใช้ สมุนไพร และอาหาร สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ดีทีเดียว
โดยเฉพาะสมุนไพรจีนที่มีองค์ความรู้ถ่ายทอดกันมานับหลายพันปี มารู้จักสมุนไพรจีนยอดนิยม 2 ชนิดที่ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนของผู้หญิงกันคะ
1. ตังกุย พืชสมุนไพรจีน (ฤทธิ์อุ่น)
ตังกุย (Dong Guai) แม้จะเป็น พืชสมุนไพร ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย แต่กลับเป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเลยในประเทศฝั่งตะวันตก คนไทยเรียกตังกุยว่าโกศเชียง หรือบางแห่งเรียกว่าโสมผู้หญิง
เนื่องจากมีสรรพคุณเกี่ยวกับการปรับสมดุลฮอร์โมนในผู้หญิงที่เด่นมาก สมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์อุ่น รสหวานปนขม เผ็ดเล็กน้อย รากแห้งใช้ทำเป็นยาควรเลือกหญ้าขนาดใหญ่ที่มีรากฝอยน้อย จะได้คุณภาพแถมมีกลิ่นหอมมาก
ตังกุยแก้โรคสตรียอดฮิต
เนื่องจากตังกุยมีฤทธิ์อุ่นจึงช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนได้ดี โดยเฉพาะคนที่มีหยินเกิน ช่วยบำรุงเลือด และช่วยแก้อาการผิดปกติของสตรีได้มากมาย เช่น
- รักษาอาการปวดท้องประจำเดือน ตกขาว
- บำรุงมดลูก
- ช่วยแก้ภาวะมีบุตรยากทั้งเพศหญิงและเพศชายเนื่องจากมีสารแอนติออกซิแดนต์ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มคุณภาพสเปิร์ม น้ำเชื้อแข็งแรง
- ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผู้หญิงหลังคลอดลูกได้อย่างดี
- บรรเทาอาการร้อนวูบวาบ หงุดหงิด เหงื่อออกตอนกลางคืนจากภาวะวัยทอง เนื่องจากมีสารไฟโตรเอสโทรเจนที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงอย่างอ่อนๆ
ตังกุยชะลอวัยได้ผลจริง
เพราะตังกุยช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้นและปรับสมดุลฮอร์โมนจึงช่วยบำรุงผิวและสามารถชะลอวัยได้ มีสรรพคุณดังนี้
- บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
- แก้ปัญหาผมร่วง ผื่นคัน และทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น
- บำรุงสมอง ตับ ต่อมน้ำเหลือง เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย เช่น วิตามินA B E
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ จึงช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
- แก้ภาวะโลหิตจาง บำรุงเลือด เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือด ได้แก่ โฟลิก ไนอะซิน ไบโอติน และวิตามินบี 12
- ช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการปวด เช่น ปวดข้อ ปวดเส้นประสาท ไมเกรน
- แก้อาการอ่อนเพลีย (Fatigue)
- ช่วยทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลำไส้มีความชุ่มชื่น
ใครไม่ควรใช้ตังกุยบ้าง?
สำหรับผู้ที่ไม่ควรกินตังกุยคือ
- สตรีตั้งครรภ์และระหว่าให้นมบุตร
- ผู้กินยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือเนื้องอกที่มีสาเหตุสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโทรเจน
- ผู้แพ้พืชในวงศ์ Apiaceae
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด
- ผู้ที่ใช้ยา Tretinoin ยาแก้โรคซึมเศร้า ยาต้านมะเร็งบางชนิด ซึ่งส่งผลให้ผิวไวต่อแสง
2. เก๋ากี้ พืชสมุนไพรจีน (ฤทธิ์กลาง)
ส่วนสมุนไพรจีนอีกชนิดหนึ่งที่นำเสนอก็คือ เก๋ากี้ หรือที่ชาวผรั่งมักเรียกกันว่า โกจิเบอร์รี่ นั่นเอง ในตำราสมุนไพรจีนโบราณชื่อ Shen Nong Ben Cao Jing ได้แบ่งคุณภาพสมุนไพรเป็น 3 ระดับ คือ สูง กลาง และต่ำ
เก๋ากี้เองจัดเป็นหนึ่งใน ‘พืชสมุนไพร’ จำนวน 120 ชนิดที่มีคุณภาพในระดับสูง ซึ่งมีประโยชน์สารพัดมากมาย ทั้งช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ชีวิตยืนยาวชะลอวัย และยังมีความปลอดภัยสูงด้วย
สมุนไพรจีนชนิดนี้พบได้ในแถบเอเชีย บริเวณภูเขาหิมาลัย ทวีปอเมริกาเหนือ กลาง แต่ที่มีคุณภาพดีจะอยู่ที่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ประเทศจีน
เก๋ากี้ เป็นสมุนไพรฤทธิ์กลาง รสหวาน มีสรรพคุณช่วยหล่อเลี้ยงและปรับการทำงานของตับและไต (ซึ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ หากการทำงานลดลงจะทำให้ร่างกายแก่ชรา) ช่วยบำรุงเลือดและปรับสภาพโดยรวมให้ร่างกายเข้าสู่สมดุลตามธรรมชาติ
สารอาหารที่ดีต่อสุขภาพใน ‘เก๋ากี้’
พบสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพและช่วยป้องกันโรคในเก๋ากี้ดังนี้
- สารแอนติออกซิเดนต์ โดยมีค่า ORAC Score ซึ่งเป็นค่าที่บอกถึงความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระถึง 25,300 นอกจากนี้ยังพบสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ได้แก่ เบต้า แคโรทีน ลูทีน ไลโคปีนอีกด้วย จึงช่วยทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์
- มีกรดแอมิโนที่จำเป็น 18 ชนิด ช่วยเสริมภูมิต้านทานแก่ร่างกาย
- ใยอาหาร และมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงเกินมาตรฐาน
- วิตามินและแร่ธาตุ เช่นวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี2 บี5 บี6 วิตามินอี สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ซีลีเนียม โพแทสเซียม จึงช่วยเรื่องการมองเห็น ป้องกันเลนส์ตาเสื่อม
- โพลีแซคคาไรด์ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานดีขึ้น
- สารบีเทน ช่วยป้องกันดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำร้าย ทำให้จิตใจสงบ ไม่ตื่นตัว เพิ่มความจำ ขจัดความอ่อนล้า และช่วยเรื่องการนอนหลับ
- สารไฟซาลีน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคมะเร็ง
- สารเซสควิเทอร์พีนอยด์ ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน ชะลอวัย ลดอาการผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือน ช่วยการทำงานของหัวใจและลดความเสี่ยงเกิดโรคความดันโลหิตสูง
- สารเบต้าไซโทสเตอรอล ช่วยต้านการอักเสบ ลดระดับคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการต่อมลูกหมากโต และเพิ่มสมมรรถภาพทางเพศ
คุณค่ามากมายจาก ‘พืชสมุนไพร’ ทั้งสองชนิดนี้ ช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์ได้ดีทีเดียวค่ะ
>> รายละเอียด : น้ำว่านหางจระเข้ ผสมโกจิเบอร์รี่ <<
>> รีวิวน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus Gogiberry <<