
มาเรียนรู้ “วิธีลดพุง” ด้วยหลัก 3 อ. กันเถอะ
ภาวะโภชนาการเกินหรือโรคอ้วนกำลังเป็นเพชฌฆาตเงียบที่ทำให้คนไทยและคนทั่วโลกเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ โดยมีสถิติพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจนแทบเอาไม่อยู่
แต่ละปีประชากรโลกจำนวนมากมหาศาล ถึง 63 ล้านคนต้องจบชีวิตลงเพราะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (1ในนั้นคือโรคอ้วน)
และในจำนวนนี้เป็นคนไทยมากถึงปีละ 314,340 คน คิดเป็นสัดส่วน 73%ของการเสียชีวิตทั้งหมดของคนไทย จึงขอนำเคล็ดลับ วิธีลดพุง ลดความอ้วน สำหรับคนที่อยากผอม ให้ได้ผล และปลอดภัย ไม่โยโย่มาฝากค่ะ
ความอ้วนโดยเฉพาะคนอ้วนลงพุง คือสาเหตุที่นำไปสู่การเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อเรื้อรังอีกหลายโรค สาเหตุสำคัญที่ทำให้อ้วนนั้นเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์
โดยเฉพาะการกินอาหารปริมาณมากจนได้รับพลังงานเกินความต้องการของร่างกาย ตามมาด้วยพฤติกรรมแน่นิ่ง เคลื่อนไหวน้อย ไม่ออกกำลังกาย โดยไม่ตระหนักถึงภัยร้ายจากความอ้วน
คนส่วนใหญ่เห็นความอ้วนเป็นธรรมชาติ ธรรมดา รู้สึกชาชิน และคิดว่าคนอ้วนก็มีชีวิตอยู่ได้เหมือนคนทั่วไปจึงไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่..
การลดน้ำหนักโดยการกินยา การอดอาหาร หรือใช้วิธีสุดโต่งผิดไปจากวิถีชีวิต นั่นคือการแก้ปัญหาความอ้วนที่ปลายเหตุ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวรและยั่งยืน
การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ต้องใช้หลักการของธรรมชาติคือ “ความทุกข์เกิดจากเหตุ ดับเหตุได้ ทุกข์ก็ดับ”
ความอ้วนคือทุกข์ จะลดทุกข์จากความอ้วนได้ต้องหาเหตุให้พบแล้วหาทางไปดับเหตุ ก็จะลดทุกข์คือความอ้วนได้ สาเหตุของความอ้วนหนีไม่พ้น 3 อ. คือ อ.อาหาร คือกินเกิน อ.ออกกำลังกาย คือไม่ขยับ อ.อารมณ์ คือบังคับสติตัวเองไม่ได้ ถ้าสามารถดูแลครบทั้ง 3 ข้อนี้ได้ น้ำหนักจะลดอย่างถาวรยั่งยืน
1. อ. อารมณ์
คือสิ่งแรกที่ผู้ต้องการลดน้ำหนักพึงกระทำ ถ้าไม่ผ่านด่านนี้การลดความอ้วนก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะไปควบคุมอาหารและบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย ควรถามตัวเองว่าจะลดความอ้วนเพื่ออะไร? แล้วตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน เพื่อเป็นแรงจูงใจหรือสร้างแรงบันดาลใจให้ตนเอง เพราะคุณต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน
แรงจูงใจนี้ต้องมีพลังมากพอที่จะผลักดันให้เราเปลี่ยนพฤติกรรม ยกตัวอย่างเช่น จะลดน้ำหนักเพราะอยากมีชีวิตอยู่เห็นอนาคตลูก กลัวเป็นโรคเบาหวานแล้วต้องถูกตัดขา กลัวต้องไปทำบายพาสหรือโดนผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจซึ่งมีราคาเส้นละ 170,000! กลัวเป็นภาระคนอื่นตอนแก่เฒ่า หรืออยากกลับไปใส่เสื้อเบอร์ M หรือ เบอร์ S เหมือนคนอื่นเค้าให้ได้ เป็นต้น
ต้องสร้างแรงจูงใจ แล้วเขียนลงบนกระดาษหรืออะไรก็ได้ติดตัวไว้ในที่ที่เราเห็นได้สะดวกตลอดเวลา หลังจากนั้นใช้หลัก 3 ส.ควบคุมอารมณ์
- ส.สกัด สกัดอารมณ์ เมื่อเจออาหารน่ากินหรืออาหารจานโปรดต้องฝึกสกัดอารมณ์เพื่อไม่ให้กินเกิน
- ส.สะกด สะกดอารมณ์โดยการตั้งสติเวลากินอาหารทุกมื้อ จะทำให้เกิดปัญญา รู้ว่าต้องกินแต่พอดี เลือกอาหารที่มีแคลอรีต่ำ และบังคับตนเองให้ไปออกกำลังกายเป็นประจำ
- ส.สะกิด สะกิดคนรอบข้างให้ลดน้ำหนักไปพร้อมๆกัน จะทำเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มก็ได้ แล้วตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนัก
2. อ. อาหาร
ต้องสร้างแรงบันดาลใจเพื่อควบคุมความอยากโดยการกินอาหารประเภทแป้ง ไขมัน ของหวานให้น้อยลง กินผักผลไม้ให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัดกะทิ อาหารมันๆ ควรกินอาหารไทยประเภทต้ม ย่าง ยำ อบ นึ่ง น้ำพริกเป็นประจำ เช่น แกงเลียง แกงส้ม ต้มยำปลา แกงอ่อม แกงป่า ยำผัก ส้มตำ ข้าวยำปักษ์ใต้ฯ
ต้องระวังการกินข้าวและอาหารประเภทแป้ง (คาร์โบไฮเดตร)ไม่ให้มากเกินไป ฝึกนิสัยกินผลไม้เป็นอาหารว่างแทนขนมหวาน เลิกดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน แล้วหันไปดื่มน้ำเปล่าแทน ในแต่ละมื้อควรควบคุมปริมาณอาหารให้อิ่มพอดีๆ คือให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย อย่าเสียดายของเพราะการทิ้งตอนนี้มันง่ายกว่าการจะกำจัดทิ้งตอนที่มันอยู่ในร่างกายคุณแล้ว
3. อ. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายต้องทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร จึงจะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 90% ถ้าออกกำลังกายอย่างเดียวโดยไม่ควบคุมอาหารจะลดน้ำหนักได้เพียงร้อยละ 1 แต่ถ้าควบคุมอาหารอย่างเดียวโดยไม่สนออกกำลังกาย จะลดน้ำหนักได้เพียงร้อยละ 9 เท่านั้น!
วิธีลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายต้องใช้วิธีแอโรบิก เช่น วิ่ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก และอื่นๆที่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าครั้งละ 45-60 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าไปเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย
ถ้าขี้เกียจก็ต้องกลับไปหาแรงจูงใจที่ตัวเองตั้งไว้ใน อ.อารมณ์ ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมามีคนไทยจำนวนมากที่สามารถลดความอ้วนด้วยหลัก 3 อ.ได้สำเร็จ รายหนึ่งจากน้ำหนัก 144 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 58 กิโลกรัม โดยใช้เวลา 2 ปีครึ่ง อีกรายจากน้ำหนัก 85 กิโลกรัม เหลือ 58 กิโลกรัม
วิธีลดพุง ด้วยหลัก 3 อ. ต้องใช้เวลา ความเพียรมุมานะ เอาจริง ไม่ท้อแท้ ถ้าเราผ่านด่าน อ.อารมณ์ได้แล้ว ก็เท่ากับทำสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง แต่ต้องใช้เวลา คนที่ไม่ผ่านส่วนมากขาดความอดทน ไม่เอาจริงเอาจัง ลืมแรงบันดาลใจ ปลงตก ในที่สุดก็กลับมาอ้วนใหม่
จะมานึกได้เมื่อพิษอ้วนกลับมาสำแดงฤทธิ์เดช เช่น เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วงบั้นปลายชีวิตต้องทุกข์ทรมานทั้งสร้างความเดือดร้อนให้ลูกหลาน
เป้าหมายสุดท้ายของการใช้หลัก 3 อ. ลดน้ำหนักไม่ใช่ทำให้น้ำหนักลดลงเพียงช่วงแรกๆเท่านั้น แต่เป็นการคงน้ำหนักที่ลดลงตามเป้าอย่างถาวรโดยไม่กลับมาอ้วนใหม่
ซึ่งคุณสามารถใช้ตัวช่วยเสริมอาหารที่เป็นธรรมชาติที่ปลอดภัย (ไม่มีส่วนผสมของยา)และถูกต้องตามหลักโภชนาการ ควบคู่กันกับหลัก 3 อ.นี้
เพื่อย่นระยะเวลาของกระบวนการลดน้ำหนักของคุณลงได้อีกระดับนึงด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงแค่หุ่นสวย หล่อสมาร์ทเท่านั้น แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คุณจะเป็นคนใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง เจ็บป่วยน้อยลงและมีชีวิตที่ยืนยาวค่ะ
>> ลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ด้วยอาหารเสริม F4 <<
>> วิธีลดน้ำหนักด้วยพริกไทยดำ <<
>> ยาลดความอ้วน อันตรายอย่างไร <<