วุ้นตา (vitreous) คือ ของเหลวที่อยู่ภายในลูกตาส่วนหลัง มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายไข่ขาวและยึดติดกับผิวของจอตา ในกรณีที่มีความผิดปกติ
หรือเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน อาจเกิดตะกอนเล็กๆขึ้นในวุ้นตาได้ เพราะวุ้นตาจะเสื่อมตัวและมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ หดตัว และลอกตัวจากจอตาเกิดเป็นตะกอนขุ่น
ดังนั้นในรายที่มีอาการวุ้นลูกตาเสื่อม(Vitreous Degeneration) มักจะมองเห็นเป็นจุดหรือเส้นสีดําคล้ายหยากไย่ลอยไปมา โดยเฉพาะเวลากลอกตา ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นมากจะมองเห็นแสงแวบคล้ายฟ้าแลบขึ้นในลูกตา
และรู้สึกเหมือนขอบเขตการมองเห็นด้านข้างจะแคบลง เนื่องจากจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก สาเหตุของ’วุ้นตาเสื่อม’
1. อายุที่มากขึ้น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป น้ำวุ้นตาจะมีการหดตัวและหนาตัวเป็นจุดหรือเป็นเส้นภายในลูกตา การหดตัวของน้ำวุ้นตานี้จะทำให้น้ำวุ้นตาแยกห่างออกจากจอประสาทตา
รวมกันเป็นกลุ่มก้อนที่มีลักษณะทึบแสง ทำให้เห็นเป็นเงาเกิดขึ้น
2. การได้รับอุบัติเหตุทางตา หรือบริเวณศีรษะ หรือมีการอักเสบในลูกตา จะทำให้น้ำลูกตาเสื่อมเร็วกว่าปกติได้
3. ผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นมากๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำวุ้นลูกตาเสื่อมเร็วกว่าปกติได้
สำหรับคนที่มีภาวะวุ้นตาเสื่อมนั้น ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา แม้จะยังคงมองเห็นจุดดําลอยไปมาแต่ก็ไม่ทําให้เกิดอันตรายใดๆ แต่ในรายที่ตรวจพบรอยฉีกขาดที่จอตา
เพราะแรงดึงรั้งจากการที่วุ้นตาร่อนตัวออกจากจอตา อาจทำให้จอตาฉีกขาด จนมองเห็นแสงแวบได้ชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืดหรือในเวลากลางคืน และหากทิ้งไว้ จะทําให้เกิดภาวะจอตาหลุดลอก
ส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ ซึ่งในรายที่ตรวจพบรอยฉีกขาดที่จอตา แพทย์จะทำการรักษาด้วยแสงเลเซอร์เพื่อปิดรอยฉีกขาดนั้น วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะวุ้นตาเสื่อม
- หลีกเลี่ยงการใช้สายตาเป็นเวลานานๆ พยายามให้สายตาอย่างทะนุถนอม
- ไม่ควรจดจ่อหรือใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนานๆ ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ หรือ หน้าจอมือถือ
- อย่าเครียด หรือ หักโหมงาน
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ด้วยสภาวะการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ใช้สายตาและจดจ่อกับสมาร์ทโฟนมากขึ้น เรียกได้ว่าอยู่กับหน้าจอมือถือแทบทั้งวัน ทำให้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะวุ้นตาเสื่อมได้ และอาการที่เกิดขึ้นจะไม่หายไป
แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงของอาการไปสู่ภาวะที่อันตรายต่อดวงตามากขึ้นได้เช่น ภาวะจอตาขาดหรือหลุดลอก
ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญต่อการดูแลและบำรุงดวงตาให้ดี เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมองเห็นโลกอันสดใสไปนานๆ
บทความน่าสนใจ
- Target ทาร์เกท อาหารเสริมดูแลดวงตา
- มือถือและคอมพิวเตอร์ ส่งผลเสียต่อสายตาอย่างไร
- ‘เบาหวาน’ขึ้นจอประสาทตา อย่าประมาท