FAQ, วุ้นตาเสื่อม

วุ้นตาเสื่อม ภัยร้ายเสี่ยงบอด!!

%e0%b8%a7%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1-%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%94

วุ้นตา (vitreous)  คือ ของเหลวที่อยู่ภายในลูกตาส่วนหลัง มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายไข่ขาวและยึดติดกับผิวของจอตา ในกรณีที่มีความผิดปกติ

หรือเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน อาจเกิดตะกอนเล็กๆขึ้นในวุ้นตาได้ เพราะวุ้นตาจะเสื่อมตัวและมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ หดตัว และลอกตัวจากจอตาเกิดเป็นตะกอนขุ่น

ดังนั้นในรายที่มีอาการวุ้นลูกตาเสื่อม(Vitreous Degeneration) มักจะมองเห็นเป็นจุดหรือเส้นสีดําคล้ายหยากไย่ลอยไปมา โดยเฉพาะเวลากลอกตา ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นมากจะมองเห็นแสงแวบคล้ายฟ้าแลบขึ้นในลูกตา

สายตาเสื่อมแก้ได้ด้วยลูทีนและวิตามินเอ

และรู้สึกเหมือนขอบเขตการมองเห็นด้านข้างจะแคบลง เนื่องจากจอประสาทตาฉีกขาดหรือหลุดลอก สาเหตุของ’วุ้นตาเสื่อม’

1. อายุที่มากขึ้น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป น้ำวุ้นตาจะมีการหดตัวและหนาตัวเป็นจุดหรือเป็นเส้นภายในลูกตา การหดตัวของน้ำวุ้นตานี้จะทำให้น้ำวุ้นตาแยกห่างออกจากจอประสาทตา

รวมกันเป็นกลุ่มก้อนที่มีลักษณะทึบแสง ทำให้เห็นเป็นเงาเกิดขึ้น

2. การได้รับอุบัติเหตุทางตา หรือบริเวณศีรษะ หรือมีการอักเสบในลูกตา จะทำให้น้ำลูกตาเสื่อมเร็วกว่าปกติได้

3. ผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นมากๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำวุ้นลูกตาเสื่อมเร็วกว่าปกติได้

สำหรับคนที่มีภาวะวุ้นตาเสื่อมนั้น ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา แม้จะยังคงมองเห็นจุดดําลอยไปมาแต่ก็ไม่ทําให้เกิดอันตรายใดๆ แต่ในรายที่ตรวจพบรอยฉีกขาดที่จอตา

เพราะแรงดึงรั้งจากการที่วุ้นตาร่อนตัวออกจากจอตา อาจทำให้จอตาฉีกขาด จนมองเห็นแสงแวบได้ชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืดหรือในเวลากลางคืน และหากทิ้งไว้ จะทําให้เกิดภาวะจอตาหลุดลอก

อย่าขยี้ตาหากอยากถนอมดวงตา

ส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ ซึ่งในรายที่ตรวจพบรอยฉีกขาดที่จอตา แพทย์จะทำการรักษาด้วยแสงเลเซอร์เพื่อปิดรอยฉีกขาดนั้น วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะวุ้นตาเสื่อม

  • หลีกเลี่ยงการใช้สายตาเป็นเวลานานๆ พยายามให้สายตาอย่างทะนุถนอม
  • ไม่ควรจดจ่อหรือใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนานๆ ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ หรือ หน้าจอมือถือ
  • อย่าเครียด หรือ หักโหมงาน
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ด้วยสภาวะการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ใช้สายตาและจดจ่อกับสมาร์ทโฟนมากขึ้น เรียกได้ว่าอยู่กับหน้าจอมือถือแทบทั้งวัน ทำให้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะวุ้นตาเสื่อมได้ และอาการที่เกิดขึ้นจะไม่หายไป

การติดหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ ทำให้สายตาเสื่อมและวุ้นตาเสื่อมได้

แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงของอาการไปสู่ภาวะที่อันตรายต่อดวงตามากขึ้นได้เช่น ภาวะจอตาขาดหรือหลุดลอก

ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญต่อการดูแลและบำรุงดวงตาให้ดี เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมองเห็นโลกอันสดใสไปนานๆ

อาหารเสริมบำรุงสายทาร์เกท Target

บทความน่าสนใจ

error: do not copy content!!