หากเอ่ยถึง สมุนไพรจีน ที่เป็นยาอายุวัฒนะ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึงสมุนไพรอย่างเห็ดหลินจือ และ โสม ซึ่งถือว่าเป็น สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ของจีนที่มีสรรพคุณและคุณค่าในการรักษาโรคต่างๆเป็นอย่างมาก
เห็ดหลินจือ
โดย สมุนไพรจีน ชนิดนี้มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ซึ่งมีการแบ่งออกไปตามสีและคุณค่าของเห็ด แถมยังถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคลของชาวจีนและยังเป็น อาหารเจ อีกด้วย
“เห็ดหลินจือ” ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมีมากมายกว่า 100 สายพันธุ์ สายพันธุ์ที่นิยมและมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุดคือสายพันธ์สีแดง หรือ เห็ดหลินจือแดง หรือ การ์โนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม (Ganoderma Iucidum)
โดยในเห็ดหลินจือจะมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งจะช่วยยับยั้งและรักษาอาการต่างๆ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป
เห็ดชนิดนี้จัดว่าเป็นของหายากที่มีคุณค่าสูงในทาง สมุนไพรจีน มีการยกย่องว่าเป็นเห็ดที่ดีที่สุด จากที่มีการบันทึกในคัมภีร์โบราณ ‘เสินหนงเปิ่นฉ่า’ (ตำราเก่าแก่ที่คนจีนนับถือกันมากที่สุด)ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือ นี้เป็นเทพเจ้าแห่งชีวิตที่มีพลังมหัศจรรย์
นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเห็ดชนิดนี้มีสารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 250ชนิด เป็นยาบำรุงร่างกายและใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุ
นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งรักษาโรคต่างๆได้มากมายหลายโรค และยังปลอดภัยเพราะไม่มีสารพิษใดๆต่อร่างกายเลย
สำหรับลักษณะทั่วไปของเห็ดหลินจือนั้น จะมีรูปร่างเหมือนหรือคล้ายกับไตของเรามีสีแดงอมน้ำตาลๆหรืออาจจะเป็นสีม่วงแก่ก็มี บริเวณหมวกเห็ดจะมีลายคล้ายๆวงแหวนมันๆวาวๆอยู่เนื้อแข็งเหมือนกับไม้
ส่วนบริเวณปลายนอกของหมวกเห็ดนี้จะเป็นสีขาว หรืออาจจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ก็ได้ ซึ่งมีลักษณะบางและม้วนเข้าด้านในหน่อยๆและตรงบริเวณก้านของดอกเห็ดหลินจือนี้จะเป็นสีน้ำตาลอมแดง
สรรพคุณของเห็ดหลินจือ
- ช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรคได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บหรือป่วยง่าย
- ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ไม่หมองคล้ำ
- บำรุงระบบสายตา ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชะลอการเป็นโรคตาเสื่อม
- ช่วยรักษาอาการปวดตามไขข้อต่างๆทั่วร่างกาย
- ลดคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี
- ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน หรือปวดศีรษะข้างเดียวได้
- ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารเกิดภาวะสมดุล ไม่ป่วยด้วยโรคกระเพาะ หรือท้องผูก รวมทั้งริดสีดวงทวารด้วย
- ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกร้ายที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติในร่างกาย
- ยืดอายุของผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ (HIV) ให้มีชีวิตอยู่ได้ยาวนานขึ้น
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคเบาหวานได้ดี
- ช่วยทำให้เลือดในร่างกายทั้งระบบสามารถหมุนเวียนได้อย่างสมดุล
- ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยและต้านทานความแก่ชรา
- ช่วยบำรุงระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งความจำดีขึ้น จึงห่างไกลโรคอัลไซเมอร
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด
- ช่วยบำรุงตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ
- บำรุงไต ในไตเรื้องรังบางชนิด โดยช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น
- บรรเทาอาการลมบ้าหมู
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ช่วยขับปัสสาวะ
- แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ เก้าท์
- รักษาโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ SLE
- แก้อาการปวดประจำเดือน
- ป้องกันสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
- แก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก
มีงานวิจัยศึกษาพบสารเคมีใน สมุนไพรจีน ‘หลินจือ’ จำนวนมากมาย แต่ที่สำคัญและมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาแบ่งได้ดังนี้
- กลุ่ม polysaccharide พบสาร polysaccharide A, B, C, D, E, G, H Polysaccharide BN-3-A, B, C และ Polysaccharide อื่นๆ
ซึ่งสารต่างๆในกลุ่มนี้จะมีฤทธิ์สำคัญในการต้านมะเร็ง และกระตุ้นภูมิต้านทาน ลดการอักเสบได้ และสามารถป้องกันอันตรายจากการฉายรังสี
- กลุ่ม triterpenoids เป็นสารที่สำคัญและมีผู้พบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาได้แก่ ganoderic acid R&S, ganoderic K, ganoderic acid A, B ,oleic acid
- กลุ่ม protoalkaloid & amino acid ได้แก่ adenosine, adenine, uracil, uridine มีฤทธิ์ในการรักษาอาการกล้ามเนื้อลีบ ยับยั้งการจับตัวของเกร็ดเลือด
- กลุ่ม peptidoglycan เป็นสารกลุ่มที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด คือ ganoderan A,B,C
- กลุ่ม steroids มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง และ ganodersterone ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของตับได้
- โปรตีน ได้มีผู้สกัดพบว่าโปรตีน Ling-Zhi 8(LZ-8) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย
ฤทธิ์ต้านมะเร็ง
จากการศึกษาพบว่า สารสกัดด้วยน้ำของ เห็ดหลินจือ มีผลทำให้หนูที่ทำให้เป็นมะเร็งมีอายุยาวขึ้น แต่การทดลองในหลอดทดลองสารสกัดเห็ดหลินจือด้วยน้ำไม่มีผลต่อเซลล์
และสารออกฤทธิ์เป็นพวกกลุ่ม polysaccharide อีกทั้งยังพบว่า สามารถลดพิษของยาพวกที่เป็นพิษต่อเซลล์ (cytotoxic) ได้อีกด้วย จึงสรุปว่า สมุนไพรจีน ชนิดนี้มีผลช่วยชะลออาการของมะเร็งและช่วยยืดอายุผู้ป่วยได้
ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
มีผู้ศึกษาวิจัยกันมากใช้ทั้งสารสกัดด้วยน้ำ สารสกัดน้ำผสมด่าง และสารสกัดที่ออกฤทธิ์พวก glycopolysaccharide พบว่า ช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีขึ้น
โดยไปเพิ่มประสิทธิภาพเกี่ยวกับการป้องกันและการสร้าง antibody และยังพบว่าสารกลุ่ม polysaccharide จะไปกระตุ้นเซลล์ lymphocyte T ให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
จึงเป็นผลให้สามารถชะลอการลุกลามของมะเร็งและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายขึ้นด้วย
ฤทธิ์ต่อโรคภูมิแพ้
สามารถยับยั้งการแพ้ทั้งผื่นคัน และหอบหืด โดยเห็ดหลินจือสามารถยับยั้งการหลั่ง histamine และสามารถลดอาการแพ้ชนิดรุนแรง (anaphylaxis) ได้ด้วย นอกจากนี้ยังลดปฏิกริยาการตอบโต้ของผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เห็ดหลินจือ ออกมาจำหน่ายค่อนข้างมาก สำหรับการเลือกซื้อควรศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก
เพราะเห็ดหลินจือที่จะมีคุณภาพดีนั้น ต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งความชื้น แสงสว่าง รวมไปถึงสารอาหารที่ได้รับ และสิ่งที่ต้องดูอีกเรื่องก็คือ ขั้นตอนการแปรรูปตรงนี้ก็สำคัญ
เพราะเป็นกระบวนการที่จะต้องสกัดสารโพลีแซ็กคาไรด์จากเห็ดออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ควรต้องเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากเห็ดชนิดนี้จะไวต่อความชื้นเป็นพิเศษและความความชื้นจะทำให้เห็ดหลินจือขึ้นราได้นั่นเอง
โดยส่วนใหญ่จะทานกันในรูปแบบของการชงดื่ม หรือต้มดื่ม เป็นน้ำสมุนไพรหรืออาจจะผสมกับโสมต้มดื่ม รวมทั้งที่บรรจุเป็นเม็ดแคปซูลมากกว่า
ซึ่งเห็ดหลินจือในประเทศไทยของเรานั้น ก็สามารถพบเห็นได้โดยธรรมชาติเรียกว่าแทบทุกภูมิภาคกันเลยทีเดียว และนอกจากคุณประโยชน์ในด้านอาหารแล้ว
ยังมีสถาบันวิจัยต่างๆทำการศึกษาและนำเห็ดหลินจือนี้ไปใช้ในการรักษาโรคต่างๆ รวมทั้งสามารถนำมาประกอบอาหารเจสำหรับผู้ที่ทานอาหารเจได้อีกด้วย นับเป็น สมุนไพรจีน ที่ทรงคุณค่าและประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
โสม
โสม เป็น สมุนไพรจีน ที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่โบราณนานนับพันปี โดยเป็นพืชในตระกูล Araliaceae และได้ชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย
สามารถรักษาโรคได้มากมายหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน,โรคหลอดเลือด ,มะเร็งฯ ช่วยคลายเครียดแถมช่วยเพิ่มพลังแก่ร่างกายได้อีกด้วย
รากโสม มีฤทธิ์อุ่นมีกลิ่นหอมเล็กน้อยรสหวานอมขม โสม ที่มีแหล่งกำเนิดจากโซนเอเซียเรามักเรียกว่า Asian ginseng เช่นโสมจากประเทศ จีน เกาหลี
ส่วนโสมจากประเทศอเมริกานั้นจะมีสรรพคุณในการรักษาน้อยกว่า อีกชนิดหนึ่งก็คือ Siberian ginseng อันนี้จะให้ผลการรักษาอ่อนที่สุด
สารสำคัญที่พบอยู่ในโสม
สารสำคัญที่พบในบริเวณรากของโสมคือสาร saponin ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มได้ 3 กลุ่ม คือ ginsenoside, panaxoside และ chikusetsusaponin
ส่วนประกอบสำคัญที่โดดเด่นของโสมคือ ginsenoside ซึ่งจะพบอยู่ใน สมุนไพรจีน อย่างโสมเพียงแค่ประมาณ 1-2% เท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับชนิดของโสม แหล่งที่ปลูก รวมถึงกระบวนการผลิตด้วย
โดยทั่วไปพบว่าโสมที่ขายในท้องตลาดบางชนิดแทบจะไม่มี ginsenoside เลย ดังนั้นเมื่อเราหาซื้อโสมเพื่อมาบำรุงร่างกายจึงควรพิจารณาดูส่วนประกอบของโสมที่ตัว ginsenoside เป็นหลักครับ
ในยุคที่รีบเร่ง การแข่งขันสูงขึ้นทำให้หลายคนต้องทำงานหนักมากจนเกิดภาวะเครียดสะสมตามมา ซึ่งความเครียดนี้เองที่เป็นภัยเงียบต่อสุขภาพ แม้แต่การรับประทานอาหารในปัจจุบันก็ต้องแข่งกับเวลา
สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปตามมลภาวะต่างๆรอบตัวมากขึ้น ประกอบกับอายุที่มากขึ้นและไม่ได้ดูแลสุขภาพอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้หลายๆคนเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและที่สำคัญคือ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้เซลล์สมองของเราด้อยประสิทธิภาพและเสื่อมลงตลอดเวลา
ปัจจุบันผู้บริโภคสนใจเรื่องการรักษาสุขภาพมากขึ้นโดยเฉพาะการกลับคืนสู่ธรรมชาติตามศาสตร์การแพทย์แบบตะวันออก ซึ่งรักษาโดยใช้หลักการรักษาสมดุลร่างกายร่วมกับการใช้สมุนไพรที่มีมากกว่า 1,000 ชนิด
ซึ่งแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณแตกต่างกันไปเช่น โสม ตังกุย ถั่งเช่า และใบแปะก๊วย เป็นต้น หากกล่าวถึงสุดยอดสมุนไพรที่ชาวตะวันออกใช้กันอย่างแพร่หลาย
คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงโสม ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการทำงานของม้าม ปอด และหัวใจ รวมถึงมีผลปรับสมดุลของของเหลวต่างๆในร่างกาย ลดการกระหายน้ำ ช่วยสงบจิตใจ และช่วยบำรุงสมอง
โดยธรรมชาติโสมมีหลายสายพันธุ์และคุณประโยชน์ก็แตกต่างกัน เช่นโสมเอเชีย(จีน เกาหลี) โสมไซบีเรีย และโสมอเมริกาเป็นต้น โสมอเมริกาเป็นน้องใหม่ที่จะว่าไปก็มีมายาวนาน
มีรายงานการใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองที่อ่อนล้าสืบเนื่องจากร่างกายอ่อนเพลียและมีความเครียดสะสมได้ ลดภาวะหลงลืม แพทย์แผนจีนกล่าวว่าช่วยทำให้หายใจอิ่ม
ทำให้ชีพจรที่อ่อนกำลังกลับเป็นปกติและช่วยเจริญอาหาร ปัจจุบันได้มีการนำโสมมาเป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายชนิด โสมที่ดีมีคุณภาพควรมีอายุ 6 ปีขึ้นไป
การนำมาผสมกับซุปไก่สกัดจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ มีรายงานการวิจัยพบว่าสามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกายและสมอง
ช่วยลดความวิตกกังวล คลายความเครียด และเพิ่มสมาธิได้ ส่งผลให้เราทำงานต่างๆได้ดีขึ้น เหนื่อยช้าลง
คุณสมบัติอันโดดเด่นของโสม
- โสม เป็น สมุนไพร ที่สามารถชะลอความแก่่ ชะลอความเสื่อมได้ เพราะอนุมูลอิสระที่สลายตัวจากการเผาพลาญในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆให้เสื่อมสลายลง
อันเป็นสาเหตุหนึ่งของความแก่ชรา โสมสามารถทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจนได้ จึงสามารถช่วยให้เนื้อเยื่อเสื่อมสภาพช้าลง อีกทั้งด้วยคุณสมบัติที่เป็นตัวปรับสภาพให้ร่างกายและจิตใจ
มีความทนทานต่อความกดดันได้มากขึ้น จึงช่วยลดขบวนการของความแก่ชราลงได้
- ช่วยเพิ่มพลัง คุณสมบัติอันโดดเด่นของโสมคือต่อต้านความเมื่อยล้า ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพขณะที่ทำงานหรือออกกำลังกาย
โสมจะช่วยให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ขบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงปลดปล่อยพลังงานได้มากขึ้น เหน็ดเหนื่อยช้า และมีความทนทานต่อการทำงานหนักมากยิ่งขึ้นด้วย
- เสริมภูมิคุ้มกัน จากการทดลองพบว่าโสมสามารถเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้เิ่พิ่มขึ้นถึง 50% มีปฏิกิริยาตอบสนองของเม็ดเลือดขาวต่อสารเคมีสูงขึ้น
เพิ่มอัตราการทำลายจุลินทรีย์หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆของเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว จึงส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากเชื้อจุลินทรีย์ ไวรัส เชื้อรา หรือสารเคมีต่างๆ ตลอดจนการต่อต้านโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดต่างๆได้เป็นอย่างดี
- ใช้ป้องกันโรคมะเร็ง โดยเพิ่มอัตราการทำลายจุลินทรีย์หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆแก่เซลล์เม็ดเลือดขาว
- คุณสมบัติเด่นของโสมคือ ช่วยคลายเครียด ต้านความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อความกดดันจากภายนอกได้ โดยเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆเพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด
- ช่วยลดน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในคนไข้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โสมทำให้ต่อมในตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
ช่วยป้องกันการเกิด อาการมึน ชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า และการเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้ ginsenoside Rb และ ginsenoside Rc ยังออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน จึงช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินจากภายนอกในการรักษาคนไข้โรคเบาหวานได้อีกทาง
- ฟื้นฟูโรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม การทานโสมมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าโสมเป็นตัวกระตุ้นความกำหนัดทางเพศด้วย
ซึ่งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าโสมไม่ได้ทำให้ฮอร์โมนทางเพศเปลี่ยนแปลงเลย การที่โสมช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น เป็นผลโดยอ้อมจากคุณสมบัติที่ทำให้สุขภาพจิตและสมรรถภาพทางร่างกายดีขึ้น
- ช่วยปรับระดับฮอร์โมน phytoestrogen ให้สมดุล เพื่อลดอาการวูบวาบและอาการอื่นๆ ในสตรีหมดประจำเดือน
เก็บโสมอย่างไรให้ได้คุณภาพ
การเก็บรากสมุนไพรโสมต้องทำให้แห้งโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เอ็นไซม์ในรากออกมาทำลาย saponinจนหมด ประเทศเกาหลีนั้นจะมีการคัดโสมคุณภาพดีจำนวนหนึ่งแล้วนำมาอบไอน้ำเพื่อฆ่าเอ็นไซม์ให้หมดก่อนอบแห้ง
เรียกโสมที่ผ่านกรรมวิธีนี้ว่า โสมแดง ซึ่งจัดว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพสูงสุด ราคาค่อนข้างแพง ส่วนโสมที่นำไปตากแดดหรือทำให้แห้งโดยวิธีอื่นๆเรียกว่า โสมขาว คุณภาพและราคาจะต่ำกว่าชนิดแรกลงมา
สรรพคุณทางยาของโสม
- โสม เป็นยาอายุวัฒนะที่วิเศษที่สุดของคนจีน สามารถแก้ได้สารพัดโรค ช่วยทำให้อายุยืนยาว และอุดมไปด้วยวิตามินจำนวนมาก
- โรคมะเร็ง สารบางชนิดที่มีอยู่ใน โสมเกาหลี นั้นสามารถกำจัดและทำลายพิษรวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมที่จะทำให้เซลล์เกิดการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติได้
ได้มีการนำเอา โสมเกาหลี มาทดลองกับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ถึงแม้จะไม่ทำให้หายขาดแต่ก็ช่วยยืดระยะเวลาให้ผู้ป่วยได้ไม่น้อยทีเดียว
- ไข้หวัด โสม มีส่วนช่วยฟื้นฟูและเพิ่มศักยภาพในการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติของร่างกาย แต่ก็ต้องดูแลตัวเองควบคู่กันไปด้วย
- ช่วยป้องกันสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปอดอักเสบได้ ด้วยการตัดโอกาสไม่ให้เชื้อโรคลามลงปอด
- โรคกระเพาะอาหาร มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าโสมช่วยรักษาและยับยั้ง ไม่ให้เกิดการลุกลามของอาการกระเพาะอักเสบได้เป็นอย่างดี
- สรรพคุณในการช่วยกำจัดสารพิษและแอลกอฮอล์ที่ปะปนอยู่ในกระแสเลือดได้
- สารโปซานินที่พบในโสมมีส่วนช่วยในการกำจัดโคเลสเตอรอล ส่งผลให้ปริมาณโคเลสเตอรอลดีเพิ่มมากขึ้นด้วย
- โสม ช่วยในการสลายลิ่มเลือด,ลดไขมันในเลือด และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดเกาะตัวกันอีกด้วย
- โสมเกาหลี สามารถกระตุ้นให้ตับอ่อน สร้างอินซูลินได้ จึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในภาวะสมดุล
- โสม ช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดได้ดีขึ้น สร้างสารเม็ดสีในเม็ดเลือดแดง จึงช่วยแก้ปัญหาเลือดจางได้
- โสมเกาหลี ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น นอนหลับได้ หลับได้นาน หลับลึกขึ้น อาการปวดเมื่อยต่างๆบรรเทาหายไป และทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น
- ความเมื่อยล้า สารโปซานินจะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า ทำให้ผ่อนคลายทั้งจิตใจและกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยมีกำลังวังชา
- ช่วยคลายเครียด
- เข้าไปบำรุงระบบไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ ทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
- เป็นยาอายุวัฒนะในวัยทอง โสมจะช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น ขจัดความรู้สึกซึมเศร้า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์อวัยวะและชะลอไม่ให้เสื่อมสภาพ
หรือที่เรียกว่ามีฤทธิ์ชะลอความแก่ สารสกัดจากโสมมีฤทธิ์เป็น antioxidant ต้านการเกิด free radicals ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์แก่เร็ว
เพราะสรรพคุณอันมากมายของสุดยอดสมุนไพรจีนทั้งสองชนิดนี้ ทำให้มีการนำคุณค่าของสมุนไพรดังกล่าวมาอันแน่นใส่ลงไปในอาหารเสริม เพื่อให้หลายคนสามารถได้รับคุณประโยชน์ในรูปแบบที่ง่ายและสามารถหาซื้อทานได้โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงเมืองจีน