
คำตอบ : โรคข้อเป็นกลุ่มโรคที่เกิดการอักเสบขึ้นบริเวณโครงสร้างภายใน และภายนอกของข้อ โดยมีลักษณะอาการเจ็บปวดตามข้อ ข้อบวม แดง ร้อน
อาการฝืดตึงขัดในการเคลื่อนไหวของข้อ การสูญเสียการทำงานของข้อ การผิดรูปร่างของข้อ รวมไปถึงอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
โรคข้อ ถือเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะทุพพลภาพ แต่จะพบได้บ่อยขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เป็นโรคที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำงานได้
โรคข้อ แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- กลุ่มโรคข้อที่มีลักษณะจากการรับน้ำหนักและการใช้งานมานาน มีอาการเจ็บปวดข้อ ข้อบวม การฝืดตึงของข้อ แต่ไม่มีลักษณะของการแดง ร้อนและกดเจ็บตามข้ออย่างชัดเจน เช่น กลุ่มอาการของโรคข้อกระดูกเสื่อม โรคข้อกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น
- กลุ่มโรคข้อที่มีลักษณะการอักเสบภายในข้อ มีอาการเจ็บปวด ข้อบวม แดง ร้อน การกดเจ็บตามข้อ การฝืดตึงขัดของข้อ การสูญเสียการทำงานของข้อ การผิดรูปร่างของข้อ เช่น โรคข้ออักเสบจากการติดเชื้อ โรคเกาต์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคข้อ
- อายุ พบมากในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่มักจะเป็นในกลุ่มอาการของโรคข้อเสื่อม
- เพศ เพศหญิงจะมีโอกาสเกิดโรคข้อมากกว่าเพศชายถึง 2 เท่าตัว
- ความอ้วนหรือระดับน้ำหนักตัวมาก มักทำให้ข้อเข่า ข้อสะโพกหรือข้อสันหลังต้องรับน้ำหนักมากกว่าธรรมดา ซึ่งจะทำให้เสื่อมสภาพได้เร็วมากยิ่งขึ้น
- ข้อได้รับอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือจากการทำงาน ส่วนมากมักเกิดบริเวณข้อเข่า
- กรรมพันธุ์ บางรายมีกระดูกอ่อนที่ผิดปกติมาแต่กำเนิด และอาการจะชัดเจนขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
- โภชนาการ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้เกิดผลึกเกลือต่างๆ อาหารที่ทำจากสัตว์ปีก ทำให้เป็นโรคเกาต์
โรคข้อที่พบได้บ่อย ได้แก่
- โรคข้อเสื่อม มักเกิดกับผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ส่วนมากพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งจะมีอาการ ปวดตามข้อ โดยมักจะเกิดบริเวณข้อเข่า ข้อนิ้วมือ กระดูกต้นคอและกระดูกสันหลัง ข้อจะติดขัด ขยับไม่ค่อยออก อาจจะมีเสียงสั่นดังในข้อ ข้ออาจเป็นตุ่มนูน คดงอ หลวม คลอนได้
- โรคเกาต์ มักเกิดกับผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปพบว่าเพศชายเป็นโรคนี้สูงกว่าเพศหญิง ในระยะแรกการ ปวดตามข้อ มักจะเป็นๆหายๆ และมักจะเป็นบริเวณโคนข้อ หัวแม่เท้าและข้อเท้า ระยะหลังพบว่าเป็นก้อนตามผิวหนัง ตามข้อเท้าและข้อศอกได้ อาจมีอาการปวดเอวและปัสสาวะเป็นเลือด มักจะเกิดร่วมกับคนที่มีโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ มักเกิดในคนที่อายุระหว่าง 20-50 ปี เพศหญิงจะพบว่าเป็นมากกว่าเพศชาย ซึ่งอาการเจ็บปวดและบวมตามข้อมักจะเรื้อรังและเป็นในหลายๆข้อ และจะมีอาการข้อยึดเป็นอย่างมากในตอนเช้าๆ ข้อมักจะบวม ระยะท้ายๆข้อจะคดงอและพิการผิดรูปร่าง จะไม่สามารถงอข้อได้ โรคนี้หากเป็นมากๆอาจถึงขนาดทำให้เป็นง่อยได้
การรักษาโรคข้อ
- การรักษาทางยา ควรเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับโรคข้อชนิดนั้นๆ และเหมาะสมกับปัญหาที่พบในระยะของโรค ยาบางชนิดนอกจากให้ผลของการรักษาที่ดีแล้ว ยังอาจสร้างอาการข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนแก่ผู้ป่วยได้ด้วย ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้ยาแต่ละชนิด
- การรักษาทางกายภาพบำบัด เป็นการรักษาเพื่อลดอาการ และป้องกันการพิการของข้อและฟื้นฟูสมรรถภาพข้อให้ใช้งานได้ดีขึ้น การรักษาแบบนี้เป็นการรักษาที่จะต้องนำมาใช้ควบคู่กับการรักษาทั้งทางยาและการผ่าตัด
- การรักษาทางการผ่าตัด จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อพบว่าข้อมีความพิการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยยาหรือกายภาพบำบัด การผ่าตัดจึงเป็นทางเลือกเพื่อแก้ไขความพิการหรือเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ข้อนั้นๆ
ดังนั้นเมื่อเรามีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอก็สามารถป้องกันความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคข้อเมื่อเราอายุมากขึ้นได้และในรายที่ป่วยแล้วก็จะสามารถดูแลป้องกันมิให้โรคข้อกำเริบได้ เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาตัวและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
>>รายละเอียดสินค้า : เดียร์ Deer <<
>> รู้ไหมว่าแคลเซียม…มีประโยชน์ต่อเราอย่างไร <<
>> รีวิวอาหารเสริมเดียร์ Deer (เมื่อคุณแม่เป็นกระดูกพรุนและข้อเสื่อม) <<