อาหารเพื่อสุขภาพ ดีอย่างไร?

ทำไมต้อง อาหารเพื่อสุขภาพ ?   

อาหารทุกชนิดขอเพียงแค่สดก็มีเอ็นไซม์อยู่ทั้งสิ้น เพียงแต่ปริมาณและชนิดของเอ็นไซม์ที่มีจะแตกต่างกันไป ทั่วไปแล้วอาหารที่มาจากพืชจะมีเอ็นไซม์มากกว่าเนื้อสัตว์ และที่มีมากที่สุดก็คือ ผลไม้ ที่ถือว่าเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ นั่นเอง

เอ็นไซม์ในร่างกายจะถูกใช้ตอนที่กระเพาะและลำไส้กำลังย่อยและดูดซึมอาหารอยู่ อาหารที่อุดมด้วยเอ็นไซม์อย่างผลไม้จึงเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก

เพราะจะช่วยทดแทนเอ็นไซม์ที่สูญเสียไปในตอนย่อยและดูดซึมอาหาร ผลไม้ที่อุดมไปด้วยเอ็นไซม์แนะนำเลย มะละกอ สับปะรด ผลเบอร์รี่ทุกชนิด เชอรี่ ทับทิม องุ่น กีวี่ กล้วยที่สุกเต็มที่ ผลไม้เหล่านี้จะช่วยทั้งทดแทนและเพิ่มเอ็นไซม์เข้าไปในตัว

เหตุใดผลไม้จึงมีเอ็นไซม์มาก?

ผลไม้เปรียบเหมือนอาหารที่รวบรวมเอาปัญญาจากธรรมชาติมาส่งมอบให้กับทุกชีวิต เป็นเหมือนเปลที่หุ้มเมล็ดพันธุ์เอาไว้ ด้านหนึ่งมันมีหน้าที่ป้องคุ้มครองเมล็ดพันธุ์เอาไว้

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีหน้าที่ดึงดูดสัตว์ต่างๆให้กินแล้วไปขับถ่ายในที่ต่างๆเพื่อขยายพันธุ์ออกไป สิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิดชอบกินอาหารที่อุดมด้วยเอ็นไซม์ทั้งนั้น

เหตุนี้เองพืชหลายชนิดจึงมีผลที่อุดมไปด้วยเอ็นไซม์มากมายเพื่อให้สัตว์ต่างๆกินเป็นอาหาร เพื่อนำเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตไปเจริญเติบโตที่ไกลออกไป

ผลไม้เป็นอาหารย่อยง่าย ใช้เวลาเคลื่อนที่จากกระเพาะไปถึงลำไส้แค่ 30 นาที อาจเป็นเพราะในผลไม้มีเอ็นไซม์ช่วยย่อยอยู่มากแล้ว และเพื่อปกป้องเมล็ดพันธุ์ถูกกรดในกระเพาะนานเกินไปจนเสียหาย

เมื่อเมล็ดพันธุ์ไม่ถูกย่อย ก็จะปนออกมากับอุจจาระและแพร่พันธุ์ไปที่ไกลจากต้นเดิมออกไปได้

มารู้จักน้ำผลไม้พร้อมดื่ม

ผลไม้แป็นคลังเอ็นไซม์อย่างดีก็จริงอยู่ แต่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่กินผลไม้ไม่ถูกวิธี เพราะมักกินเป็นของหวานหลังอาหารทำให้ค้างอยู่ในกระเพาะนานเกินไป

เพราะอาหารที่กินเข้าไปก่อนจะใช้เวลาย่อยค่อนข้างนาน ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมเอ็นไซม์ในผลไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งถ้าอาหารอื่นที่อยู่ในกระเพาะทำปฎิกิริยากันมากเกินไป

ก็จะเกิดแก๊สในลำไส้เพิ่มมากขึ้นด้วยจนท้องอืดท้องเฟ้อ วิธีที่ดีที่สุดคือ กินผลไม้ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง เวลาที่เหมาะคือ 30-40 นาทีก่อนมื้อเช้า

 ผลไม้มีน้ำตาลคุณภาพดีอย่างฟรุกโทสและกลูโคสอันเป็นแหล่งพลังงานที่ดี เป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับร่างกายที่ไม่ได้รับอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมง

นอกจากอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุแล้ว ยังมี Phytonutrient ที่กำลังได้รับความสนใจหลายชนิด เพราะมีคุณสมบัติป้องกันการทำปฎิกิริยากับออซิเจนหรือต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง

ทำไมน้ำผลไม้ที่ฉลากระบุไว้ว่า “น้ำผลไม้แท้ 100%” จึงไม่ดี?

ที่สำคัญอีกข้อในการกินผลไม้ก็คือ น้ำผลไม้พร้อมดื่มตามท้องตลาดที่ฉลากระบุว่า “น้ำผลไม้แท้ 100%” นั้น ที่จริงแล้วไม่มีเอ็นไซม์อยู่เลย

โดยมากมักผ่านกรรมวิธีทำให้ร้อนก่อนบรรจุ สาเหตุเพราะน้ำผลไม้เหล่านี้ต้องวางขายในตู้เย็น แต่น้ำผลไม้ก็เหมือนกับนมวัว คือต้องผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อก่อน

ผลก็คือเอ็นไซม์ถูกทำลายจนหมดเกลี้ยง น้ำผลไม้ที่ดีที่สุดจึงเป็นน้ำผลไม้คั้นสดๆ แต่น้ำผลไม้สดทำปฏิกิริยกับออกซิเจนเร็วมาก จึงต้องดื่มทันทีหลังคั้นเสร็จ

การนำผลไม้สดๆมาคั้นเป็นน้ำผลไม้แล้วใส่ภาชนะ ถ้าถูกทำให้ร้อนเพียงครั้งเดียวเอ็นไซม์อาจเหลืออยู่แค่นิดเดียว

น้ำผลไม้เอฟซี คือ เครื่องดื่มที่นำน้ำผลไม้ซึ่งได้มาจากการคั้นมาทำให้ร้อนจนน้ำระเหยออกกลายเป็นของเหลวข้นๆ เพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง จากนั้นจึงนำมาเติมกลับเข้าไปจนอยู่ในสภาพเดิม

เอ็นไซม์และวิตามินส่วนใหญ่จึงสลายไปตั้งแต่กระบวนการต้มแล้ว ถึงจะเติมน้ำกลับลงไปในทีหลังก็ตาม ฉลากของน้ำผลไม้พร้อมดื่มเข้มข้นมักจะระบุว่ามีวิตามินและแร่ธาตุอยู่เท่านั้นเท่านี้

แต่สารเหล่านี้ไม่ได้มาจากธรรมชาติ เป็นการเติมเข้าไปภายหลัง สารเติมแต่งจึงไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ผักที่มีสภาพดูดีนั้น ดีจริงหรือ?

การกิน อาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารที่อยู่ในสภาพธรรมชาติมีสิ่งที่ต้องระวัง คือ ต้องเลือกอาหารที่สดใหม่และไม่ใช้สารเคมี คนที่ทำอาหารบ่อยๆจะรู้ว่า ผักสมัยนี้บางชนิด ถ้าเก็บไว้นานจะมีลักษณะเหนียว หนืด

ไม่เหมือนผักสมัยก่อนที่อาจเหี่ยวเฉาหรือเน่าไปเลย ผลไม้ที่ภายนอกดูดีแต่เมื่อผ่าออกมากลับแกนกลางเน่า ที่น่าแปลกใจคือไม่ได้เน่าจากข้างนอกอย่างที่ควรจะเป็น

สิ่งเหล่านี้เป็นผลตกค้างจากสารเคมีเกษตร เมื่อสารเคมีเข้าสู่ร่างกายก็ยังต้องใช้เอ็นไซม์ปริมาณมากในการกำจัดพิษด้วย ข้าวกล้องก็เช่นกัน เปลือกนอกของข้าวกล้องมีวิตามินแร่ธาตุและเอ็นไซม์มากกว่าข้าวขาว แต่ก็มีสารเคมีตกค้างมากกว่า

 สารเคมีเกษตรที่ใช้ในการเกษตรส่วนจะออกฤทธิ์ขัดขวางการทำงานของเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการแตกหน่อและการเจริญเติบโต เมื่อสารเคมีซึมลงไปที่ดินจุลินทรีย์ในดินก็ตาย

ดินขาดธาตุอาหาร สุดท้ายก็ต้องใช้ปุ๋ยเคมีใช้เพื่อเติมธาตุอาหารให้กับดิน ธาตุอาหารตามธรรมชาติที่เดิมมีอยู่ในดินเกิดจากการย่อยสลายที่แบคทีเรียผลิตขึ้น

แม้ว่าแร่ธาตุจากสองแหล่งนี้จะมีสูตรโครงสร้างทางเคมีเหมือนกัน แต่มีข้อมูลต่างกัน คุณภาพจึงแตกต่างกัน

ผักผลไม้ที่ปลูกโดยใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมีจะมีแต่ข้อมูลของสารเคมีไม่มีข้อมูลชีวิต ลองเริ่มจากการเลือกผักและผลไม้ที่ปลูกจากการใช้สารเคมีค่อนข้างน้อยหรือออร์แกนิกก่อน

มันอาจมีหน้าตาไม่สวยงามเพราะหนอนหรือแมลงกัดกิน แถมยังแพงกว่าผักผลไม้ทั่วไป แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสุขภาพที่ดีของเรา

ผักในเรือนเพาะชำ ขาดสารอาหารสำคัญ

สาเหตุที่เรือนเพาะชำนิยมกันมาก เพราะให้ผลผลิตค่อนข้างสูงในพื้นที่เปลูกที่มีจำกัด สามารถเก็บผลผลิตได้ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิยาวไปจนถึงต้นฤดูหนาว

นอกจากนี้พลาสติกยังช่วยป้องกันลม ฝน และหนอนแมลงต่างๆได้อีกด้วย ต่อมากลับพบว่า พืชผักที่ปลูกจากเรื่อนเพาะชำมี “สารพฤกษเคมี (phytochemicals) “ น้อยกว่าพืชที่ปลูกกลางแจ้งอย่างมาก

สารพฤกษเคมี หมายถึง สารชีวเคมีที่มีอยู่ในพืช ซึ่งทำหน้าที่ต่างๆเช่นให้สีหรือกลิ่นในพืช มีคุณสมบัติต้านการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนได้ดี (ต้านอนุมูลอิสระ)

ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่างๆได้ สารพฤกษเคมีจึงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมาก เช่น โพลีฟีนอล (polyphenol) ที่พบมากในไวน์แดง

ไลโคพีน (lycopene) ที่ทำให้แตงโมกับมะเขือเทศมีสีแดง ไอโซฟลาโวน ในถั่วเหลือง  คาเทซิน (catechin)ในชาเขียว และ ลิกนิน (lignin)ในงา งาดำ

ประโยชน์ด้านสุขภาพของสาร phytonutrient

• กำจัดอนุมูลอิสระ

• ซ่อมแซมยีนและเซลล์ที่เสียหาย

• ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและป้องกัน

• ป้องกันโรคติดต่อ

• เพิ่มภูมิต้านทานต่อโรค

• ช่วยให้ความจำและสมาธิดี ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

• ชะลอความแก่

กระบวนการสร้างสารพฤกษเคมีมีความสัมพันธ์กับแสงแดดเป็นอย่างมาก เพราะพืชไม่สามารถเคลื่อนที่อย่างอิสระตามใจชอบได้เหมือนสัตว์ เมื่ออยู่กลางแสงแดดร้อนจัด

หรือถูกแมลงทำลายกัดกินเป็นอาหาร จึงต้องสร้างสารป้องกันอันตรายจากแสงแดดและสารป้องกันแมลงขึ้นมา

 ฉะนั้นพืชที่เจริญเติบโตในเรือนเพาะชำพลาสติกที่ไม่มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกเช่น แสงแดด ลม ฝน หรือหนอนแมลง เหมือนกับพืชที่ปลูกกลางแจ้ง

พืชในเรือนเพาะชำจะหลั่งสารพฤกษเคมีน้อยกว่า สังเกตุได้จากสีและกลิ่นของผักที่ปลูกในเรือนเพาะชำสู้ผักที่ปลูกกลางแจ้งไม่ได้

ถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะสามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระเองได้ แต่เอ็นไซม์ที่สำคัญกับร่างกายก็ควรได้รับเพิ่มจากอาหารที่สดใหม่ 

ดังนั้นเราจึงควรเลือกกินผัก ผลไม้คุณภาพดี ที่มีสารพฤกษเคมี (phytochemicals) จำนวนมากด้วย

>> เสริม Phytonutrient ด้วย SOD <<
>> อนุมูลอิสระ คืออะไร <<
>> SOD สารต้านอนุมูลอิสระดีที่สุดในโลก <<