[รีวิว] ‘วิธีแก้กรดไหลย้อน’ ด้วยน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus
วิธีแก้กรดไหลย้อน
ที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องทนทุกข์กับอาการกรดไหลย้อน ไม่ว่าจะลองรักษาด้วยยา ไปพบแพทย์ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน วิธีบรรเทาอาการ และการใช้สมุนไพรธรรมชาติเพื่อช่วยในการรักษาอาการดังกล่าว

♦︎ โรคกรดไหลย้อน (GERD: Gastroesophageal Reflux Disease) คืออะไร?

โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบร้อนบริเวณยอดอก บางครั้งอาจมีอาการท้องอืด คลื่นไส้ หรือเรอเปรี้ยวร่วมด้วย
อาการของโรคนี้คล้ายคลึงกับโรคกระเพาะอาหาร ทำให้บางครั้งเกิดความสับสนในการวินิจฉัยโรคได้

สาเหตุหลักของโรค : เกิดจากการทำงานผิดปกติของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการกิน อาการเครียด หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร
♦︎ อาการของโรคกรดไหลย้อน
อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นโรคกรดไหลย้อน มีดังต่อไปนี้
1. แสบร้อนบริเวณหน้าอกและลำคอ โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร

2. เรอเปรี้ยว หรือมีรสขมในปาก
3. มีอาการไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบโดยไม่ทราบสาเหตุ
4. รู้สึกกลืนลำบาก เจ็บคอ หรือรู้สึกเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ
5. ท้องอืด แน่นท้อง และคลื่นไส้
6. มีอาการรุนแรงขึ้นหลังจากนอนราบ
♦︎ ระดับความรุนแรงของโรคกรดไหลย้อน

ระดับแรก: อาการไม่รุนแรง มีอาการกรดไหลย้อนเป็นบางครั้ง
ระดับสอง: กรดไหลย้อนเกิดขึ้นบ่อย และเริ่มส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
ระดับสาม: กรดไหลย้อนรุนแรงมาก ส่งผลให้เกิดการอักเสบในหลอดอาหาร และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลที่หลอดอาหารหรือมะเร็งหลอดอาหาร
♦︎ สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อน

ตัวการสำคัญที่ทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อน คือ พฤติกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันของเราที่ไม่ถูกต้อง จนสร้างความเสี่ยงให้เกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นได้ ซึ่งมีลักษณะพฤติกรรมเสี่ยงดังนี้
1. พฤติกรรมการกิน
➤ กินอาหารปริมาณมากในแต่ละมื้อ
➤ บริโภคอาหารที่มีไขมันสูง หรือของทอดมากเกินไป เพราะจะทำให้กระเพาะอาหารเคลื่อนไหวช้าลง ส่งผลให้มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนได้มากขึ้น

➤ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มอัดลม เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นและยังทำให้หูรูดคลายตัวง่ายอีกด้วย
➤ รับประทานอาหารรสจัด
➤ การกินยาแก้ปวด หรือยาบางชนิดที่มีผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร เนื่องจากยาแก้ปวดสามารถกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้
2. พฤติกรรมการใช้ชีวิต
➤ การนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร โดยการนอนแผ่หลาหลังกินอิ่ม ส่งผลให้น้ำย่อยในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาได้
➤ ไม่ออกกำลังกายและมีภาวะอ้วน โดยการมีภาวะน้ำหนักเกินจะส่งผลให้ความดันในช่องท้องมากขึ้น จึงทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้

➤ การสูบบุหรี่ โดยจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น
➤ ความเครียดและความวิตกกังวล เพราะร่างกายจะหลั่งกรดในกระเพาะอาหารออกมามากขึ้น
➤ สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นฟิตเปรี๊ยะ โดยเฉพาะการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณรอบเอวจะเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร อาจทำให้น้ำย่อยไหลกลับขึ้นมาได้
♦︎ วิธีป้องกันและรักษากรดไหลย้อน

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
- กินอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารทอด และอาหารรสจัด โดยเลือกกินอาหารที่ดีและพยายามกินให้ตรงเวลา

- ลดการทานอาหารหรือผักผลไม้ที่มีค่าความเป็นกรดสูง แล้วหันมาทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยสูง เพื่อช่วยระบบย่อย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อดึก แนะนำว่าไม่ควรทานอาหารหลัง 19.30 น. และควรนั่งพักให้อาหารย่อยประมาณ 3-4 ชั่วโมงแล้วจึงค่อยเข้านอน
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ลดความเครียดด้วยเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือโยคะ

- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ใช้หมอนที่รองรับศีรษะและลำคอได้ดี
3. การใช้สมุนไพรธรรมชาติ

หนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดีในการบรรเทาอาการกรดไหลย้อนคือการใช้ ว่านหางจระเข้ ซึ่งมีสารโพลีแซคคาไรด์ที่ช่วยสมานแผล ลดการอักเสบในหลอดอาหาร และช่วยปรับสมดุลของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร

ดังนั้นสมุนไพรธรรมชาติอย่างว่านหางจระเข้จึงเปรียบเสมือนยารักษากรดไหลย้อนที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมจากธรรมชาติ และการทานเพื่อรักษาอาการกรดไหลย้อนนั้น ควรเลือกทานน้ำว่านหางจระเข้ที่ปลอดจากสารเคมีตกค้าง ไม่ใส่สี สารกันบูด หรือสารปรุงแต่ง
4. การรักษาทางการแพทย์
➤ ใช้ยาลดกรดหรือยาลดการหลั่งกรดตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหารหรือเพิ่มการเคลื่อนตัวของระบบทางเดินอาหารเพื่อกำจัดกรด

บางรายอาจใช้เวลานานประมาณ 1-3 เดือน กว่าอาการต่างๆจะดีขึ้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องตรวจเพิ่มเติมเช่นการกลืนแป้งหรือการส่องกล้องตรวจลงไปที่กระเพาะ
➤ ในกรณีที่รุนแรง อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาหูรูดหลอดอาหาร สำหรับคนที่ไม่ต้องการให้ปลายทางของการรักษากรดไหลย้อนไปอยู่ที่การผ่าตัด เราก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตให้ได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร
♦︎ น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus กับการรักษากรดไหลย้อน

น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus เป็นผลิตภัณฑ์จากว่านหางจระเข้สายพันธุ์บาร์บาเดนซิส ซึ่งปลูกแบบออร์แกนิก ปราศจากสารเคมีตกค้าง มีสารโพลีแซคคาไรด์ในปริมาณสูง ช่วยลดอาการอักเสบของหลอดอาหาร และช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร

ที่สำคัญที่สุดคือผ่านการปลูกแบบออแกนิกส์ พิถีพิถันทุกขั้นตอนตั้งแต่การปอกเปลือกไปจนถึงการบรรจุลงขวด เพื่อให้ได้น้ำว่านหางจระเข้ที่สดใหม่ อัดแน่นด้วยคุณค่าของว่านหางจระเข้แบบเต็มร้อย
รวมทั้งไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่สี ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เหมือนได้ทานว่านสดๆจากธรรมชาติจริงๆ
♦︎ รีวิวจากผู้ใช้จริง

รีวิวน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus จากประสบการณ์จริงของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ที่มีอาการเรื้อรังมานานหลายปี (Cr. คุณศุภโชค) ก่อนอื่นต้องบอกถึงสาเหตุที่มาเริ่มทานน้ำว่านหางจระเข้ ทั้งๆที่ปกติเป็นคนไม่แตะพวกอาหารเสริมเลย
เพราะความทรมานจากโรคกรดไหลย้อนนี้ที่เป็นมานาน พอไปรักษาทีก็ดีได้สักพัก แล้วก็วนเวียนเป็นๆหายๆอยู่แบบนี้ ถึงโรคกรดไหลย้อนจะไม่ใช่โรคร้ายแรงนักแต่มันสร้างความรำคาญและทรมานไม่ใช่น้อย

ใครไม่เป็นก็ไม่รู้ ทำให้รู้สึกอึกอัด ไม่มีความสุข รำคาญมากจนหงุดหงิดแทบทั้งวัน ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเป็นมาก ช่วงแรกๆก็แค่รู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอบ่อย หนักเข้าก็เริ่มแสบร้อน แน่นบริเวณหน้าอก บางครั้งก็จุกเสียดลิ้นปี่มาก จุกคอ กลืนลำบาก เหมือนมีอะไรมาดันอยู่ในลำคอ อึดอัด ทรมานแทบทำงานไม่ได้
ด้วยความไม่รู้ก็ไปหาซื้อยาตามร้าน ได้ยาเคลือบกระเพาะ ขับลมบ้าง ลดกรดบ้าง สุดท้ายไปหาหมอกินยาหมดเป็นหอบ ก็ยังไม่ค่อยดี เป็นแล้วเป็นอีก.. สุดท้ายเริ่มมองหาทางเลือกอื่นเพื่อช่วยทุเลาอาการของโรคให้เบาบางลงบ้าง
มีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำว่าน้ำว่านหางจระเข้สามารถช่วยรักษาอาการของโรคกรดไหลย้อนและโรคกระเพาะได้ดีมาก จึงได้ทานน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus ตัวนี้
ตอนแรกที่เห็นกล่อง น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus รู้สึกดูดีสวยหรูมาก (ทำให้นึกไปถึงช่วงเทศกาลว่าเหมาะที่จะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่เลย) ภายในกล่องจะมี น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus 1 ขวด และแก้วใบเล็ก30 มล. อีก 1 ใบ (มีระดับตวงวัดอยู่ข้าง สะดวกในการกินทีเดียว)
วิธีทาน คือ ทาน 1 แก้วเล็ก(ที่ติดมาให้) ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง และทาน 4 เวลา คือ เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน ตอนเริ่มทานครั้งแรกๆ จะรู้สึกเหมือนทานวุ้น คือ มีรสชาติจืด แต่ทานง่าย ที่สำคัญคือตอนเทน้ำว่านหางจระเข้ลงในแก้ว จะเห็นเนื้อว่านหางจระเข้ ล้นทะลักแบบจัดเต็ม..เยอะมาก เหมือนกินว่านสดๆ
3-4 วันแรกที่ทาน น้ำว่านหางจระเข้ ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าอาการแสบร้อนยอดอก จุกเสียดลิ้นปี่เริ่มลดลง รู้สึกดีขึ้น สดชื่นขึ้น จุกคอ รำคาญน้อยลง แถมยังทานได้ต่อเนื่องไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษตกค้างอีกด้วย เพราะทำจากธรรมชาติล้วนๆ
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ S Vera Plus มีส่วนประกอบแค่ 2 อย่างคือ น้ำว่านหางจระเข้และเนื้อว่านหางจระเข้สด 99 % อีก 1 % คือ โกจิเบอร์รี่ กับวิตามินซี เท่านั้น ไม่มีสารเคมีตัวอื่นผสม ปลอดภัยและช่วยบำรุงสุขภาพได้อย่างแท้จริง
หลังจากทานติดต่อกันได้ประมาณ 15 วัน อาการกรดไหลย้อนดีขึ้นจนแปลกใจ แทบไม่มีอาการอีกเลย งานนี้จะได้หายหงุดหงิด รำคาญกับโรคนี้เสียที ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าจะพึ่งแค่น้ำว่านหางจระเข้อย่างเดียว แต่ผมยังคงมุ่งมั่นกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยก่อโรคด้วยอีกทาง เพื่อป้องกันกลับมาเป็นซ้ำอีก
ผ่านมาได้ 3 เดือน ไม่มีอาการของโรคกรดไหลย้อนมากวนใจอีก ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย.. พอมาศึกษาดูสรรพคุณของน้ำว่านหางจระเข้ ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำให้มันจึงช่วยแก้ปัญหาโรคกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี เพราะว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
แถมยังช่วยดีท็อกสารพิษต่างๆที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร และลำไส้ได้เป็นอย่างดีด้วย การเอาชนะโรคกรดไหลย้อน นั้นไม่ใช่เรื่องยาก.. เพียงแต่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ก่อให้เกิดโรค รวมถึงดูแลเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกายให้เหมาะสม
และเสริมด้วย เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus เพียงเท่านี้คุณก็จะห่างไกลจากโรคกรดไหลย้อนได้แล้ว
♦︎ สรุป
การรักษาโรคกรดไหลย้อนให้ได้ผลดีต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม และหากต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนและฟื้นฟูสุขภาพทางเดินอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากผู้ทานน้ำว่านหางจระเข้เพื่อรักษาอาการกรดไหลย้อน พบว่าอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังที่เป็นอยู่ มีอาการดีขึ้นภายใน 15 วันหลังจากดื่มน้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus อย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกแสบร้อนยอดอกลดน้อยลง ระบบย่อยอาหารทำงานมีประสิทธิภาพ จนคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
โดยมีวิธีรับประทานดังนี้ : ดื่มวันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 30 มล. ก่อนอาหารและก่อนนอน สามารถดื่มต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง
💚 เลือกดูแลสุขภาพของคุณตั้งแต่วันนี้! ลดความเสี่ยงจากกรดไหลย้อนด้วยตัวช่วยจากธรรมชาติที่ปลอดภัยและเห็นผลจริง
📌 สั่งซื้อน้ำว่านหางจระเข้ S VERA PLUS ได้ที่ Shopee ลิงค์นี้เลยค่ะ 💚💚👉 https://s.shopee.co.th/AUgu1lydAC
บทความที่น่าสนใจ
- น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus
- น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus ช่วยลดเบาหวาน
- เครื่องดื่มสุขภาพ น้ำว่านหางจระเข้ S Vera Plus ยอดขายดี




