เคยไหมครับ? อยู่ดีๆก็หายใจไม่อิ่ม เหมือนจะขาดลม จุกคอ ใจหวิว อาการแปลกๆแบบนี้เป็นกันได้แทบทุกคน ปกติเป็นคนสุขภาพดีมาตลอด อยู่มาวันนึงจู่ๆก็เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม หายใจไม่ทัน เหมือนจะขาดลม จุกคอ ใจสั่น เหงื่อแตก หวาดกลัว ใจหวิวๆ ลอยๆ..คล้ายจะเป็นลมขึ้นมา
ตัวผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องทรมานสุดๆ กับอาการพวกนี้ที่เกิดขึ้นเป็นทีๆ และมักจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการแต่ละครั้งก็ 10-30 นาที พอเป็นบ่อยก็เริ่มรู้สึกกลัวที่จะเป็นซ้ำขึ้นอีก พออาการดีขึ้นบ้างก็ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยด่วน
เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าผมเป็นกรดไหลย้อน รับยา Miracid , Prevacid ฯ มาทานอยู่พักนึง แต่ก็ยังไม่หาย จนถูกส่งไปส่องกล้อง (Gastroscopy) ก็ไม่พบอะไรอีก
ว่าแล้วก็ถูกส่งไปอายุรกรรมทรวงอก ตรวจระบบหายใจและปอดแทน ต้องรักษาอยู่อีกพักนึง ก็ยังคงไม่มีอะไรดีขึ้น
3 เดือนผ่านไปกับการรักษาที่เหมือนจะไร้ความหวังสิ้นดี ผมถูกสันนิษฐานและการคาดเดาว่าน่าจะเป็นโน่นเป็นนี่ แล้วก็โยนส่งไปแผนกอื่นเรื่อยๆ ขณะที่ยังคงมีอาการเกิดซ้ำๆอยู่ตลอดเหมือนเดิม สร้างความกังวลใจไม่น้อยเลย
ต่อมาผมก็ถูกส่งไปแผนกโรคหัวใจครับ รับการตรวจ EKG , วิ่งสายพาน ฯ แพทย์บอกกราฟไม่ปกติ และรับยาโรคหัวใจกลับมาทาน (ช่วงเวลานี้ผมถึงกับจิตตกทีเดียวครับ อะไรกันเพิ่งอายุ 35 เองเป็นโรคหัวใจหรือเนี้ย!?)
ผ่านไปเกือบ 2 เดือนผมยังคงมีอาการเป็นระยะๆอยู่เหมือนเดิม ทีนี้แพทย์บอกให้ฉีดสีเข้าเส้นเลือดเพื่อตรวจหัวใจ โดยการสวนสายเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่โคนขา
ถึงตรงนี้ผมเห็นว่ามีความเสี่ยงเกินไป เพราะหากไม่ได้เกี่ยวกับหัวใจจริงๆ ก็จะเจ็บตัวมากเกินไปอีก จึงตัดสินใจย้ายเข้ารักษาที่โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์แพทย์ชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
เมื่อได้รับการตรวจเบื้องต้น ผลปรากฏว่าอาจารย์หมอฟันธงทันทีเลยครับว่า “คุณไม่ได้เป็นโรคหัวใจ” พร้อมกับส่งไปแผนกจิตเวชต่อเลย ในตอนนั้นผมโล่งอกมากเลยครับ เหมือนทุกอย่างคลี่คลายลงมาก
และอาการโรคที่ผมเป็นก็คือ โรคแพนิค (Panic disorder) ซึ่งในปัจจุบันมีหลายคนที่ป่วยเป็นโรคนี้แล้วไม่รู้ตัว โดยเป็นกันมากและเป็นกันมานานแล้ว
[คลิป] เตือนภัยสุขภาพ ตอน “โรคแพนิค”
โดย นพ.ชนินทร์ สกุลอิสริยาภรณ์
โรคแพนิค (Panic Disorder) สาเหตุเกิดจากความไม่สมดุล ความผิดปกติของสารสื่อนำประสาทบางอย่างในสมอง จากการเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจในอดีต
รวมทั้งความเครียดในปัจจุบัน ทำให้เกิดสัญญาณหลอก (false alarm) ราวกับว่าร่างกายกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ร่างกายจึงหลั่งสารเคมีและฮอร์โมนบางตัวออกมาในปริมาณที่มากกว่าปกติทำให้เกิดอาการดังกล่าว
ซึ่งการรักษาจะเน้นการลดอาการของโรคและคุมอาการ Panic attack เอาไว้ สำหรับกรณีของผม คุณหมอก็ได้จ่ายยา lexapro ร่วมกับ Clonazepam, Lorazepam หรือ Zolam ซึ่งเป็นยานอนหลับ
โดยหลังจากการใช้ยาแล้ว บางรายอาจจะสามารถหยุดยาได้โดยไม่มีอาการ แต่ก็มีบางราย(ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ โดยผมก็อยู่ในนั้นด้วย) จะมีอาการแพนิคกลับมาอีกเมื่อลดยาลง จึงทำให้ต้องเพิ่มยามากขึ้นไปใหม่แล้วค่อย ๆ ลดยาลงอย่างช้าๆ
ผมทานยากลุ่มนี้มาเป็นเวลานานกว่า 7 ปี เพื่อคุมอาการให้อยู่ได้ หลังจากนั้นจึงต้องค่อยๆลดยาลง จาก Clonazepam 2 mg. เหลือ 1 mg. และ 0.5mg. ตามลำดับ
จนสามารถเปลี่ยนมาใช้ Lorazepam 1 mg.ได้ และเหลือ 0.5 mg. ในที่สุด แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถหยุดยาได้ขาดอยู่ดี ยอมรับว่าผมถอดใจในเรื่องนี้แล้วนะครับ คิดแต่ว่าคงต้องทานยากลุ่มนี้เพื่อรักษาอาการโรคแพนิคไปจนตาย
และวันหนึ่งโชคก็เข้าข้างผม ที่ทำให้ได้พบกับอาหารเสริมนูทริก้า (Nutriga) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของ นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์
ซึ่งอาหารเสริมนูทริก้า 1 กล่อง จะมี 30 เม็ด ทานวันละ 1 เม็ดก่อนนอน สิ่งนี้ทำให้ผมทึ่งมาก เพราะในคืนแรกที่ได้ทานนูทริก้าร่วมกับยาที่หมอให้ทานเพื่อรักษาอาการแพนิค
ผมก็สามารถนอนหลับได้สนิทและหลับลึกขึ้น ซึ่งปกติถ้าอาศัยแค่ยานอนหลับจากหมอ ก็จะหลับได้เพียงตื้นๆเท่านั้น ร่างกายก็ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ ทำให้รู้สึกเพลีย และอิดโรยในตอนเช้าอยู่เสมอ แต่สำหรับเช้านี้ผมกลับรู้สึกสดชื่นมากกว่าเดิม
วันที่สอง ผมตัดสินใจหยุด Lorazepam 1 mg. แล้วทานแต่อาหารเสริม Nutriga เพียงอย่างเดียว เพื่อพิสูจน์ของการทาน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ หลับได้ปกติ แถมหลับได้ยาวถึงเช้า และตื่นมาด้วยความสดชื่นจนน่าประหลาดใจ
ในวันที่3 ผมก็ยังคงปฏิบัติเช่นเดิม และเมื่อผ่านมาครบ 7 วัน ผมแทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่า ตอนนี้ผมสามารถนอนหลับได้เป็นปกติ โดยหยุดยานอนหลับได้ยาวนานถึงขนาด 7 วัน (มันน่าเหลือเชื่อมาก !)
หลังจากทานอาหารเสริม Nutriga อาการแพนิคที่เคยเป็นอยู่บ่อยๆ ก็ลดลงอย่างน่าประหลาดใจ จากปกติในช่วงเวลา 1 เดือน จะมีอาการแพนิคอยู่เกือบทุกอาทิตย์ ก็เริ่มมีอาการ 2-3 อาทิตย์จึงจะเกิดอาการสักครั้ง
และหลังจากที่ทานนูทริก้าไปได้ประมาณ 3 กล่อง อาการของโรคแพนิคก็แทบไม่เกิดขึ้นเลย เรียกว่า 3-4 เดือน จึงจะเกิดอาการขึ้นมาสักครั้งและสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมรู้สึกว่า ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก สมองปลอดโปร่งขึ้น
และสามารถลดการใช้ยานอนหลับลงได้ระดับนึงทีเดียว (เป็น 10 – 15 วันจึงจะต้องทานยานอนหลับสักครั้ง)
โดยถือว่า Nutriga ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีในการลดการพึ่งพายา โดยเฉพาะยานอนหลับซึ่งมันทำให้เกิดภาวะติดยานอนหลับ แล้วหันมาฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้ด้วยตัวเอง สุขภาพดีขึ้น แข็งแรงขึ้นจากภายในจริงๆ ฟันธง !
ทั้งนี้ ผมขอเป็นกำลังใจกับหลายๆท่านที่ยังคงทุกข์ทรมานกับโรคแพนิค และต่อสู้กับอาการของโรคนี้อย่างไม่ท้อถอยนะครับ
ขอให้ใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ และเลือกทานอาหารเสริมที่มีคุณภาพและปลอดภัยด้วยนะครับ
“กินอาหารเป็นยา.. ย่อมดีกว่ากินยาเป็นอาหาร” อย่างแน่นอนครับ
(จากประสบการณ์ใช้จริงของ… คุณศุภโชค)
บทความที่น่าสนใจ
- อาหารเสริมนูทริก้า (Nutriga)
- นูทริก้า กับ โรคนอนไม่หลับ
- 5 อาหารเสริม ‘ต้านมะเร็ง’ ที่คุณควรทานเป็นประจำ