
ขอบอกตรงๆก่อนนะจ้ะ ว่าเดิมเป็นคนอ้วน อวบอั๋น มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะเป็นคนกินเก่ง และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นโรคหอบหืด ทำให้เหนื่อยง่าย เลยไม่ค่อยจะออกแรงทำอะไรมากนัก สรุปว่า กินๆนอนๆ จนตัวอ้วนตุ๊ต๊ะ
แต่ตอนเด็กๆก็ไม่เคยคิดมากอะไรเลยว่า ตัวอ้วน น่าเกลียด เพราะคนรอบข้างมักบอกว่า อ้วนน่ารักจัง (เพราะตอนนั้นหน้าใสมาก ไม่มีสิวหรือผดผื่นขึ้นเลยสักเม็ด) จนกระทั่งเมื่ออายุเข้าสู่วัยรุ่น (อายุ 20 ปี) หายนะของชีวิตก็เริ่มบังเกิด หน้าเริ่มมันเยิ้ม และสิวก็เริ่มขึ้นตามแก้มสัก 2-3 เม็ด จากนั้นอีกไม่นานนัก สิวก็เริ่มลามเข้าเต็มหน้าเลย
ตอนแรกก็คิดว่าคงจะแพ้ครีมทาหน้า แพ้น้ำประปา แพ้อาหาร ฯลฯ สารพัดจะคิดถึงสาเหตุของการเกิดสิว เรียกว่าไม่มีความรู้ที่ถูกต้องในการรักษาสิวเลย เพราะตั้งแต่เกิดมาจนอายุถึง 20 ปี ไม่เคยมีสิวผุดที่หน้าเลยแม้แต่เม็ดเดียว พอต้องมาเป็นสิวหนักๆขนาดนี้ก็เลยมึนงงไปพักนึงเหมือนกัน …(⊙_⊙;)…
แรกๆก็คิดว่าถ้ารักษาความสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม สิวก็น่าจะลดลง(อันนี้เป็นความคิดที่ผิดมากเลย ที่คิดว่าสิวเกิดจากความสกปรกอ่ะ…) แต่สิวก็ไม่มีท่าทีจะลดลงเลย แถมเพื่อนฝูงก็เริ่มทักว่าเป็นคางคก อ้วนขี้เหร่ หน้าถนนลูกรัง บ้างหล่ะ ทีนี้ก็เริ่มคิดมากและกังวล เพราะสภาพมันเลวร้ายจริงๆ ทั้งอ้วนแถมสิวยังเขรอะเต็มหน้า จิตตกไปพักใหญ่ ไม่มีใครสนใจแถมเพื่อนผู้ชายบางคนยังแสดงอาการรังเกียจแบบชัดเจนอีกต่างหาก เราก็ทนอยู่ในสภาพแบบนั้นมาเกือบ 2 ปี สุดท้ายก็เริ่มมาคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจากสภาพแย่ๆแบบนี้สักที
เริ่มจากต้องรักษาสิวก่อน เพราะหน้าเละมาก สิวอักเสบเต็มหน้าไปหมด บางวันล้างหน้าแทบไม่ได้เพราะสัมผัสใบหน้าแล้วรู้สึกเจ็บระบมมาก(ทรมานสุดๆ) เราก็เลยเริ่มไปหาหมอรักษาสิวแถวบ้าน สิ่งที่ได้รับคือ ยาทา 1 ชุด แบ่งเป็นยาทาก่อนล้างหน้า เจลทาบำรุงผิวหน้า และยาแต้มสิว (หลอดยามันช่างดูเล็กจิ๋วมากเลยเมื่อเทียบกับราคาเกือบพัน) ก็เริ่มรักษาด้วยการใช้ยาทาชุดนั้น พอยาหมดก็ต้องกลับมาหาหมออีกเพื่ิอสั่งยาทาชุดเดิมไปรักษาต่อ เดือนนึงต้องมาพบหมอเกือบ 3 ครั้ง ซึ่งผ่านไป 2 เดือน หน้าก็เริ่มดีขึ้น แต่สิวก็ยังผุดอยู่เยอะ เรียกว่าหน้าก็ยังอักเสบจากสิวอยู่ แต่ด้วยราคาที่แสนแพงทำให้เราไม่อาจสู้ค่าหมอได้อีกต่อไป ก็เลยเริ่มไปหาที่รักษาสิวที่ใหม่
ซึ่งเป็นคลีนิครักษาสิวชื่อดังแห่งหนึ่ง ก็ได้รับการรักษาด้วยยารักษาสิวในแบบที่คล้ายคลึงกัน คือ ยาทาก่อนล้างหน้า เจลทาหน้า ยาแต้มสิว แต่พิเศษขึ้นมาหน่อยตรงที่หมอจะทำการกดสิวให้ 2-3 เม็ด ทุกครั้งที่พบ (ขอบอกว่าเจ็บมากนะ ใครเคยไปกดสิวมาจะรู้ว่าเจ็บน้ำตาเล็ดเลย) ช่วงแต่ปริมาณยาที่ให้มาดูสมน้ำสมเนื้อกับราคาหน่อย(ดูไม่ค่อยแพงมากนัก) แรกๆหมอก็จ่ายยาชุดเดิมมาให้ ร่วมกับการกดสิว เราก็รักษากับคลีนิคแห่งนี้ประมาณ 3 เดือน พบหมอทุกเดือน(เดือนละ 2 ครั้ง) หน้าดีขึ้นมากเลย แต่ก็ไม่ถึงขนาดสิวหายหมดหน้าหรอกนะ มันจะมีเหลืออีก 1-2 เม็ดบนหน้าตลอด ซึ่งเราก็พอใจกับการรักษานะเพราะถ้าเทียบกับตอนแรก ถือว่าผิวหน้าดีขึ้นมากเลย แต่หมอที่รักษากลับบอกว่าจะให้ทานยาเพื่อรักษาสิว รับรองสิวหายหมดแน่นอน เราก็อึ้งเลย เพราะไม่เคยคิดจะรักษาสิวด้วยการทานยาเลย (ก่อนหน้านี้ก็หาความรู้เรื่องการรักษาสิวจากหนังสือบ้าง จากเว็บไซต์บ้าง ก็ได้รู้ว่ามียาแก้สิวที่ชื่อว่า โรแอคคิวเทน ซึ่งเป็นยาทานเพื่อรักษาสิวสำหรับคนที่เป็นสิวแบบรุนแรงมากๆ แต่เป็นยาที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างอันตรายและมีราคาค่อนข้างแพง)
พอหมอบอกจะให้ทานโรแอคคิวเทน เพื่อรักษาสิว เราก็เลยปฏิเสธ เพราะสิวมันก็น้อยลงมากแล้ว เหลือบนใบหน้าไม่กี่เม็ด เรารู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาทานตัวนี้เลย พอปฏิเสธไป หมอก็แสดงอาการไม่พอใจอย่างมาก จนสุดท้ายเราก็รู้สึกอึดอัดและไม่อยากไปรักษากับหมอคนนี้แล้ว (ส่วนนึงคือ เราได้บอกว่าไม่อยากทานยาตัวนี้เพราะมีผลข้างเคียงที่อันตราย แต่หมอกลับบอกว่าข้าวปลาที่กินเข้าไปก็มีผลข้างเคียงเหมือนกันแหล่ะ ทุกอย่างก็อันตรายเหมือนกันหมด …เราไม่อยากจะคิดว่าหมอยัดเยียดให้ทานยาเพื่อเก็บค่ารักษายาให้สูงขึ้นหรอกนะ แต่ตลอดที่รักษามา 3 เดือน หมอไม่เคยแนะนำเลยว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร กินอยู่อย่างไร เพื่อให้ลดการเกิดสิว หมอได้แต่จ่ายยาให้ทาแล้วก็กดสิว…เฮ้อ! จิตตกรอบสอง)
สรุปว่าตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ทางตัน เพราะถ้าไปรักษากับคลีนิคเดิม ก็ต้องถูกบังคับให้ทานยาแก้สิว หรือถ้าไปคลีนิคอื่น ก็เข้าสู่วงจรเดิมๆที่ต้องพบหมอเกือบทุกอาทิตย์ ได้ยาทามาชุดนึง แล้วจากนั้นพอยาหมด ก็ต้องมาพบหมออีกแล้ว (คิดดูว่าวงจรชีวิตแบบนี้ต้องใช้เงินจำนวนมากแค่ไหน) เราก็เลยต้องกลับมาคิดทบทวนและหาหนทางแก้ปัญหาเรื่องสิว..ที่ไม่สิวเลย อีกครั้ง
และแล้วก็พบทางออก.. ถ้าอยากรู้ว่าทำยังไง
อ่านต่อ >> เปลี่ยนตัวเองจากอ้วนสิวเขรอะ เป็นสาวหน้าใสสุขภาพดี #1 <<