กฏธรรมชาติของการคิดบวก
ความคิดที่เกิดขึ้นในสมองของมนุษย์เรานั้นเป็นพลังงานรูปหนึ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถมยังมีแรงดึงดูดแบบเดียวกันกับสนามแม่เหล็กอีกด้วย แต่พลังความคิดนี้จะดึงดูดเฉพาะขั้วเดียวกันเท่านั้น เช่น ความคิดที่เป็นไปในทางบวกก็จะมีแรงดึงดูดความคิดบวกด้วยกัน ขณะที่ความคิดเชิงลบก็จะดึงดูดความคิดลบเช่นกัน
คงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ ถ้าเราให้เกียรติคนอื่น คนอื่นก็จะให้เกียรติเรา “ แต่ต้องเป็นการแสดงออกจากความคิดบวกด้วยใจจริงเท่านั้น ผลสะท้อนจะเป็นอื่นไปไม่ได้เลย คนที่เข้าใจกฏธรรมชาติข้อนี้ เค้าจะคาดหมายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับการปลูกมะม่วง ก็ต้องได้ลูกมะม่วง ไม่มีทางได้ลูกมะนาวแน่นอน
ผู้ค้นพบความลับของความคิดที่มีแรงดึงดูดนี้ จะสนุกกับการเล่นกับความคิด และเมื่อฝึกบ่อยๆแรงดึงดูดนั้นก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะเข้าใจถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ว่าล้วนเป็นเพราะ “ วิธีคิด ” นั่นเอง.. ความคิดของมนุษย์เรามีอานุภาพมาก ยกตัวอย่าง โน๊ตดนตรี มีเพียง 7 ตัว คือโด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด..แค่นั้นจริงๆ แต่ความคิดสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นบทเพลงได้อย่างมากมายหลากหลายรูปแบบ หลากหลายอารมณ์ สุดแล้วแต่วิธีคิดที่จะปรุงแต่งออกมา
คนที่คิดบวกอยู่เสมอจะมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ แม้ในสิ่งที่เป็นลบก็ตาม ในขณะที่คนคิดลบจะเห็นแต่ความสิ้นหวังแม้ในสิ่งที่เป็นบวกอยู่ก็เถอะ ! นักวิทยาศาสตร์ของโลก โทมัสอัลวา เอดิสัน เค้าประสบความล้มเหลวจากการทดลองเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง เค้าบอกกับตัวเองว่า ทุกครั้งที่ล้มเหลวเขาได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นี่คือคนที่คิดบวก เอดิสันสามารถที่จะมองเห็นแสงสว่างในความมืดได้ และทุกสิ่งที่เป็นลบย่อมมีบวกแฝงไว้อยู่เสมอ
หนทางแห่งโอกาสนั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตรงข้ามมันมักมีอุปสรรคขวากหนามเป็นระยะๆด้วยซ้ำไป คนที่คิดบวกเท่านั้นที่จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปถึงจุดหมายได้ เป็นเพราะเค้าสามารถมองเห็นจุดบวกได้ระหว่างทางเดินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
การคิดเชิงบวกนี่เองก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเส้นใยประสาทที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาทนับพันนับหมื่นยื่นออกมาเกาะเกี่ยวกันเป็นร่างแหของใยประสาทอันแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นแขนงใยประสาทเหล่านี้สามารถที่จะสร้างใยประสาทเพิ่มเติมเพื่อยื่นไปสัมผัสแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นบวกกับเซลล์ประสาทส่วนอื่นได้อีกด้วย.. มันขยายส่งต่อกันเพิ่มได้เรื่อยๆ การคิดลบก็เช่นกัน ถ้าคิดลบต่อเหตุการณ์ใดมันจะดึงดูดให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำๆ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้คนรวยก็รวยขึ้นต่อไปอีก ขณะที่คนจนยังคงจนอยู่เหมือนเดิม
จงบอกกับตัวเองอยู่เสมอครับว่า “ คุณสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ “
ลองชมคลิปนี้ดูสิครับ..