วิธีบำรุงสายตา เพื่อถนอมดวงตาให้คงอยู่กับเรา
ดวงตา เป็นอวัยวะสัมผัสที่สำคัญที่สุดของการรับรู้ในระยะที่ไกล ไกลกว่าที่อวัยวะอื่นๆจะสัมผัสได้ พูดง่ายๆคือ ผิวหนังและลิ้นจะรับความรู้สึกเมื่อไปสัมผัสถูกสิ่งเหล่านั้น
จมูกจะได้กลิ่นเมื่อของอยู่ใกล้ๆ อวัยวะหูจะได้ยินเมื่อระยะเสียงอยู่ไม่ไกลนัก ส่วนตาจะสามารถมองเห็นได้ที่ระยะไกลกว่าสามารถบอกรายละเอียดได้รวดเร็วกว่า ขนาดดวงดาวบนท้องฟ้าที่เราเห็นในเวลากลางคืนนั้น อยู่ไกลตั้งเท่าไร? เราก็ยังมองเห็น
การเรียนรู้ของคนเราจะอาศัยการมองเห็นถึง 80% คนที่ตาบอดจึงขาดโอกาสในการเรียนรู้มากกว่าคนตาดี หากต้องเลือกว่าจะยอมตาบอดหรือหูหนวก หรือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส
คำตอบของหลายๆคนคงขอไม่ตาบอดมากที่สุด เพราะตาบอดทำให้ขาดโอกาสเรียนรู้ พึ่งตนเองไม่ได้ ต้องอาศัยคนอื่นช่วย ตาบอดถึงแม้จะไม่ทำให้เสียชีวิตแต่ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงอย่างมาก
สังคมที่มีคนตาบอดมากย่อมบั่นทอนประสิทธิภาพของประเทศ เศรษฐกิจตกต่ำลง ฉะนั้นการรู้ วิธีบำรุงสายตา เพื่อการดูแลสุขภาพตาให้มองเห็นได้ดีตลอดชีวิตจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
แน่นอนที่สุขภาพทั่วไปโดยรวมที่ดีเกิดจากการกินอาหารให้ครบทุกหมู่ในจำนวนที่พอเหมาะ บวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนตามสมควร ทำจิตใจให้สบายไม่เคร่งเครียดจนเกินไป
เมื่อสุขภาพโดยรวมดีก็จะมีผลให้สุขภาพตาดีด้วย แต่ก็มีบางเรื่องที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดบ่อยๆเช่น
- โรคตานั้นส่วนมากจะคล้ายๆกับโรคทางร่างกาย ที่ถ้ารักษาแต่เริ่มแรกมักจะรักษาได้ง่าย อย่าปล่อยไว้นานเกินจะแก้ไข ถ้ามีอาการผิดปกติกับตาควรไปพบจักษุแพทย์
- เมื่อมีอาการผิดปกติทางตา เฃ่น ตาแดง ตามัว ปวดตา น้ำตาไหล คันตา ตาอักเสบ เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นสีผิดเพี้ยน อย่านิ่งนอนใจควรปรึกษาแพทย์
- หากคุณต้องการทำงานที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ควรสวมแว่นนิรภัย ถ้าเป็นช่างอ๊อกเหล็ก ช่างเชื่อมโลหะ ต้องสวมแว่นหรือสวมหน้ากากป้องกันทุกครั้ง ฝึกทำจนเป็นนิสัย
มีคนจำนวนมากบอกว่าขี้เกียจใช้แว่น ไม่เคยใส่เพราะว่ามันเกะกะ รู้สึกอึดอัด ไม่สะดวก แต่ถ้าทำบ่อยๆจะเคยชินแล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้น
- ถ้าคุณต้องตากแดดทำงานกลางแจ้ง ทำงานในที่มีฝุ่นละอองมากควรใช้แว่นกันแดดช่วย อย่าใช้แว่นกันแดดเพียงแค่ตามแฟชั่น แว่นกันแดดนอกจากจะกันฝุ่นละอองแล้ว
ยังปกป้องดวงตาจากแสงหรือรังสีที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้อีกด้วย เพราแสงเหล่านี้สามารถทำลายดวงตาอย่างช้าๆ
- เมื่อมีเหตุสุดวิสัย มีสารเคมีหรือน้ำยาอะไรเข้าตา วิธีการเบื้องต้นที่ควรจะทำคือล้างตาด้วยน้ำสะอาดในทันที อย่ารีรอ
- ถ้าบังเอิญมีฝุ่นหรือผงเข้าตา อย่าขยี้ตา เพราะบางคนอาจคิดว่าเคยเอามือขยี้และถูตาหลังจากรู้สึกมีผงเข้าตาแล้วผงจะหลุดออกมาเอง ที่จริงแล้วการขยี้ตาเมื่อมีฝุ่นผงเข้าตาอาจทำให้ตาดำถลอกได้ และยุ่งยากต่อการรักษา
นอกจากนั้นผงที่แหลมคมอาจฝังลึกลงไปอีก เมื่อมีผงเข้าตาควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดหรือลืมตาในน้ำก็ได้ หากยังเคืองตาอยู่ก็ให้คนอื่นดูว่ามีผงติดอยู่ที่บริเวณใดหรือเปล่า
ถ้าเป็นเศษผงติดตาที่ตาขาวก็ใช้น้ำล้างตาหรือใช้ไม้พันสำลีเขี่ยเศษผงให้ออกจากตาได้โดยไม่ยาก ถ้าพยายามแล้วไม่ออกหรือผงติดอยู่ที่ตาดำ
อย่าพยายามเอาออกเอง จะทำให้เจ็บมากแล้วเอาออกไม่ได้ อาจทำให้ผงยิ่งฝังลึกลงไปอีกเอาออกยากขึ้น
- ในภาวะปกติเราจะมีน้ำตาหล่อเลี้ยงดวงตาซึ่งหลั่งออกมาจากต่อมต่างๆอยู่แล้ว น้ำตานี้จะชะล้างสิ่งแปลกปลอมตลอดจนชะล้างสิ่งสกปรกออกอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องล้างตาทุกวัน
บางคนเข้าใจผิดว่าเมื่อเราล้างหน้า อาบน้ำทุกวัน ก็น่าจะต้องล้างตาเพื่อความสะอาดของตาด้วย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดๆ การล้างตาด้วยน้ำยาล้างตากลับจะเป็นการไล่น้ำตาจากธรรมชาติ
ซึ่งดีกว่าน้ำยาล้างตาที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมากออกไป ควรใช้ล้างเฉพาะในภาวะผิดปกติที่น้ำตาออกมาชะล้างไม่ทันแค่นั้นเช่น มีฝุ่นผง หรือสารเคมีเข้าตา
- ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เองหรือใฃ้ยาหยอดตาของผู้อื่นเพียงแค่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติเหมือนกัน ยาหยอดตาควรจะเป็นของเฉพาะตัว
ถึงแม้ว่าคุณใช้ยาบางตัวแล้วจะรู้สึกสบายตาดีก็ตาม ยาเกือบทุกชนิดที่สรรพคุณทำให้เราสบายตาหรือหายขาดจากโรคมักจะมีผลแทรกซ้อนเล็กๆน้อยๆไปจนถึงมากได้
บางคนจึงหลงใช้ยาหยอดตารักษาอาการเล็กๆน้อยๆแต่พอนานเข้าเกิดผลแทรกซ้อนจากยาทำให้เกิดโรคตาที่รุนแรงกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะยาในกลุ่มสเตียรอยด์
ซึ่งทำให้สบายตาหายตาแดงได้เร็ว บางคนว่าหยอดแล้วตาหวาน แต่อาจก่อให้เกิดต้อกระจก ต้อหินในบางคนได้
- ถ้ามีบรรพบุรุษเป็นโรคตาที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น ต้อหิน จอตาส่วนกลางเสื่อม ควรขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อเฝ้าระวังที่โรคเหล่านั้นเพราะอาจเกิดกับคุณได้เฃ่นกัน การตรวจพบโรคแต่ระยะต้นจะทำให้รักษาง่ายกว่ามาก
- ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน นอกจากจะควบคุมเบาหวานให้ดีแล้ว ก็ต้องหมั่นพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจจอตาอย่างน้อยๆก็ปีละครั้ง คนที่เป็นเบาหวานจอตาอาจเสื่อมจากโรคเบาหวานได้แม้จะควบคุมเบาหวานอย่างดีมาตลอด
หากเบาหวานทำลายจอตาในระยะต้นก็ยังสามารถแก้ไขได้โดยใช้แส่งเลเซอร์สกัดกั้นไม่ให้โรคลุกลาม นอกจากนี้ถ้าบังเอิญเป็นโรคทางร่างกายบางอย่างที่ต้องใช้ยารักษาเป็นเวลานานๆ
เช่น วัณโรค โรคเอสแอลอี โรคข้อ โรคผิวหนังบางชนิด ตลอดจนโรคไต ยารักษาโรคดังกล่าวอาจทำลายจอตาเช่นกัน
- ถึงคุณเป็นคนสายตาสั้นมาก ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคตาหลายอย่างที่แฝงมากับภาวะสายตาสั้น ได้แก่ ต้อหิน กระจกตาฉีกขาด จอตาหลุดออก
น้ำวุ้นในตาเสื่อมซึ่งล้วนแต่เป็นโรครุนแรงทำให้ตาบอดได้ จึงควรรักษาอาการของโรคดังกล่าวและรับการตรวจตาอย่างน้อยปีละครั้ง
- ดื่มของมึนเมา น้ำชา กาแฟ แต่พอควร แม้สิ่งเหล่านี้จะไม่มีโทษต่อตาโดยตรง แต่ถ้าดื่มมากเกินไปอาจทำให้ประสาทตาเสื่อมได้ โดยเฉพาะเหล้าเถื่อนประเภทเมธิลแอลกอฮอล์ที่สามารถทำลายประสาทตาและทำให้ตาบอดได้
สิ่งเหล่านี้เป็นความเข้าใจที่ผิดๆในการดูแลดวงตามาตลอด จากนี้ไปลองนำเทคนิคข้างต้นมาปรับใช้เป็น วิธีบำรุงสายตา ของคุณเองเพื่อให้มองเห็นโลกกว้างใบนี้ต่อไปอย่างดีตลอดอายุขัย
หรืออาจจะเสริมด้วยอาหารที่มีวิตามินเอ และลูทีนที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดีก็เป็นอีกตัวช่วยนึง เพราะสิ่งสำคัญคือ “การป้องย่อมดีกว่าการการรักษาอย่างแน่นอน..”
บทความน่าสนใจ